โดยเฉพาะการประคับประคองความสัมพันธ์ภายในวงให้เป็นไปได้ด้วยดี มีความคิดเห็นที่ “แตกต่าง” แต่ “ไม่แตกแยก” ประสานไอเดียหลากหลายเข้าด้วยกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว อาจยากเย็นยิ่งกว่าสิ่งใด
มากกว่าดนตรี หากแต่มันคือความเป็น “เพื่อน” ที่หล่อหลอมกันมายาวนาน จนกลายเป็น “ครอบครัว” ไปในที่สุด
กล่าวให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนนั่นคือ Zeal เป็นหนึ่งในวงดนตรีเพียงไม่กี่วงเท่านั้น ที่แทบจะไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงสมาชิกภายในวงกันมาก่อน นับแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน (แถมยังมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก)
ก่อนคุยเรื่องเพลงกับวง Zeal ที่ล่าสุดปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ที่ชื่อว่า “เตลิด” ภายใต้ค่ายเพลง Me Records แห่ง Muzik Move เราถามก่อนเลยว่า อะไรคือเคล็ดลัพธ์แห่งความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีขนาดนี้
“คงเพราะอยู่กันมานานแหล่ะครับ 15 ปีที่ผ่านมาทะเลาะกันก็บ่อย ดีกันก็มาก สนุกกันก็เยอะ เจอกันบางทีก็มากมายกว่าครอบครัวในบางช่วงบางตอนด้วยซ้ำ มันคงเป็นความผูกพันธ์ที่บางทีก็… (นิ่งคิดสักครู่) ไม่รู้จะไปไหนกันแล้ว ถ้านับกับมามันก็ครึ่งหนึ่งของอายุแล้วนะ” ป๊อก ต่อยศ จงแจ่ม มือเบสแห่งวง Zeal พูดขึ้นพร้อมเรียกเสียงหัวเราะลั่นห้องจากเพื่อนๆ ในวง
“น่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันมานาน อยู่มหาลัยเดียวกันด้วย (มศว.ประสานมิตร-ผู้เขียน) แล้วศิลาก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก่อน” ชุ ณัฐบวร เศรษฐกนก มือกีต้าร์พูดเสริม
“ที่สำคัญผมว่าเราก่อร่างสร้างตัวมาพร้อมๆ กัน เราไม่ได้ถูกจับมารวมกัน เริ่มต้นกันเองมันก็เลยกลายเป็นเหมือนครอบครัวอย่างที่เห็นครับ” ป็อก
ถ้าเช่นนั้นเราถามอีกว่า ด้วยความที่อยู่กันมานานขนาดนี้ เชื่อได้เลยว่าต้องมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง อะไรคือเคล็ดลับในการผสานความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไว้ จนถึงทุกวันนี้
“จริงๆ เราก็ต้องคุยกันแหล่ะครับ บางทีมันก็ต้องเรียกมาคุยกัน สุดท้ายแล้วผมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นที่มันจะแก้ได้มันก็ต้องมาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางอย่างที่เราเห็นว่าเรื้อรังมานานแล้วกับเหตุการณ์หรืออะไรบางอย่าง เพราะสุดท้ายแล้วเราก็จะได้รู้ว่าไอ้ที่มันเกิดแบบนั้น หรือที่มันคิดกันแบบนั้นมันเป็นเพราะอะไร ทุกอย่างมันต้องมีเหตุผลของมัน” ป็อก อธิบายถึงเคล็ดลับที่ทำให้เราคิดในใจว่า ..เออ จริง ขึ้นมาในทันที
“บางทีคนเราไม่ได้คุยกันมันจะมีภาพบางอย่างเกิดขึ้นในหัว พอได้คุยกันแล้วก็แบบว่า อ้าว มันแค่นี้เองนี่หว่า” เคนกล่าวสรุป
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2545 Zeal ได้ปล่อยอัลบั้มแรกของพวกเขาออกมาภายใต้ค่ายเพลง More Music ภายใต้ Gmm Grammy นับถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 15 ปี แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับยาวนานกว่านั้น
“ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนนั้นพวกเรายังเรียนอยู่มศว.(ประสานมิตร-ผู้เขียน) พี่นอวงพอส เค้ากำลังหาวงดนตรีไปเล่นให้กับพี่อรอรีย์ ที่เบเกอร์รี่มิวสิค ก็ดึงพี่ป็อกไป แล้วพี่ป็อกมาดึงผมอีกที” เคน ปรัชญา มีบำรุง มือกลองเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้น
“คือผมเป็นรุ่นน้องพี่นอ แล้วพี่นอก็มาคุยกับผมว่าเราเริ่มจากเอาคนใกล้ๆ ตัวเราก่อนดีกว่า เอาแบบที่พอจะไปออดิชั่นให้พี่อรเค้าดูว่าพอได้มั๊ย พี่นอเค้าก็เลยบอกว่าป็อกพอเล่นได้มั้ย ผมก็บอกลองดู พอไปเล่นให้พี่อรเค้าดูพี่เค้าก็โอเค จากนั้นพี่นอเค้าก็ถามอีกว่าป็อกพอจะมีมือกลองมั้ย จังหวะตอนนั้นเคนเข้ามาปีหนึ่งพอดีผมก็บอกมีพี่ รุ่นน้องเราพอดี ก็เรียกเคนมา พี่เค้าก็แฮปปี้ คราวนี้มาถึงมือกีต้าร์ซึ่งเป็นพี่ชุเนี่ยจะมาทางพี่เอวงพอส เค้าก็เลยดึงพี่ชุมาซึ่งตอนนั้นวงบ็อกเซอร์ก็เริ่มเบาบางลงแล้ว (บ็อกเซอร์-Boxer อีกหนึ่งวงอัลเทอร์เนทีฟร็อคของไทยช่วงต้นยุค 90s ที่น่าตามหามาฟัง-ผู้เขียน) ก็เลยกลายเป็น 3 คนที่รวมตัวกันก่อน เพื่อเล่นให้กับพี่อร หลังจากนั้นมันก็เริ่มมีงานเข้ามาเยอะขึ้นๆ เราก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นเรามาทำวงกันเลยดีกว่า รุ่นพี่ๆ หลายคนก็บอกว่าทำกันเองเลย หานักร้องเข้ามา ซึ่งตอนแรกก็เอาป็อกร้อง เคยไปเทสต์แล้วดันผ่านด้วย (หัวเราะกันลั่นวง) ไม่รู้ผ่านได้ไง กระทั่งจังหวะพอดีเป็กซ์เข้ามาปีหนึ่ง เออ ไอ้นี่หน่วยก้านมันดีแหะ ลองมาคุยกันก่อนมั้ย ตอนนั้นเราใช้ความเป็นรุ่นพี่นิดหน่อย แกมบังคับ (หัวเราะ) สุดท้ายแล้วเออ แฮปปี้ว่ะ ชอบ ก็เลยรวมตัวกันมาเป็น 4 คน” ป็อก เล่ายาวถึงจุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักดนตรีของวง Zeal
“จากนั้นก็เป็นพี่เอก แบล็คเฮด ก็เริ่มชวนไปเล่นแบ็คอัพ เล่นตามร้าน ก็เล่นมาเรื่อยประมาณ 4 ปี ได้เล่นแบ็คอัพให้พี่อ้อม สุนิสา จนกระทั่งได้เล่นให้พี่ป้อม อัสนี (MD More Music ในเวลานั้น – ผู้เขียน) ได้ดู ก็เลยเป็นที่มาของวง Zeal นับแต่นั้น” เคน กล่าวเสริม
“จริงๆ แล้วเราชื่อวงว่า SIL นะ ย่อมาจาก Sorry I’m late ซึ่งก็ตามชื่อเลยครับ ตอนนั้นพวกเราสายกันชิบหายวายป่วง” ป็อก เล่าต่อพร้อมเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นห้องอีกครั้ง
“พอกำลังจะออกอัลบั้มจริงๆ พี่ป้อมเค้าก็บอกว่า อย่าเลย แล้วตอนนั้น SIL มันก็ไปคล้ายกับ Silly Fools ด้วย เปลี่ยนเถอะ เป็กซ์ก็เลยไปเปิดดิกชินนารีแล้วมันมีคำว่า Zeal พอดี ซึ่งอ่านออกเสียงคล้ายๆ เดิม แต่ความหมายดีขึ้น มันแปลว่า ตั้งใจ มุ่งมั่น กระตือรือร้น ซึ่งมันตรงกับพวกเรามาก …ตรงข้ามกับพวกเราโดยสิ้นเชิง (หัวเราะทั้งวง) ซึ่งพี่ป้อมก็แบบว่า โอเคเลย เอาอันนี้…”
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในแง่ของพื้นที่การทำงานของวง Zeal มาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเราเห็นตรงกันนั่นคือไม่ว่าจะทำงานที่ไหน แต่เอกลักษณ์ความเป็น Zeal ที่เรารู้จักกันดี ยังคงเข้มข้น และเป็นไปในแนวทางของพวกเขาเสมอ
“พวกเราเคลื่อนย้ายมาหลายที่ครับ อยู่มาหลายแผ่นดินพอสมควร” เคน พูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับต้นสังกัดที่ทางวงต้องประสบมาโดยตลอด
“เริ่มต้นจาก More Music ไป Duck Bar มา We Records ล่าสุดพอ We ปิด เราก็อ้าว ไปไหนล่ะเนี่ย เพื่อนเราก็ออกไปกันหมด คนที่ทำงานด้วยกันมาก็ไม่อยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ขอตามไปด้วยเลยแล้วกัน อยู่กับเพื่อนจะได้ทำงานกันได้เหมือนเดิม” เคน พูดถึงการเปลี่ยนแปลงต้นสังกัดที่ในปัจจุบันมาลงตัวที่ Me Records ภายใต้ Muzik Move
“เอาเข้าจริงๆ เราก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนะ เพราะอย่างที่บอก เราก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว” ชุ กล่าวเสริมและว่า “หัวหน้าค่ายใหญ่ของพวกเราพี่จุ๊บ วุฒินันต์ เป็นพี่น้องกัน รู้จักกันมานานอยู่แล้ว แล้วกับฟองเบียร์ก็เคยร่วมงานกันที่ We Records มาอยู่แล้ว”
“ส่วนการทำงานของวงเราก็มีหลายรูปแบบครับ มีทั้งขึ้นจากดนตรีก่อน มีขึ้นจากโปรแกรมมาก่อน แจมกันในห้องซ้อม หรือขึ้นจากเพลงดิบที่มีเนื้อร้องมาก่อน แล้วทำดนตรีครอบ ก็แล้วแต่” เคนพูดถึงวิธีการทำงานในแบบของวง Zeal ที่ยังคงเป็นมาเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้
แรกเริ่มเดิมที่หลังจากได้ฟังเพลง “เตลิด” เรามีความรู้สึกว่ามันคือคำที่ทำให้เราแปลกในใจแง่ที่ว่า มันจะสามารถเข้าไปในอยู่ในเพลงได้อย่างไร ซึ่งแน่นอนสิ่งต่างๆ มันต้องมีความเป็นมาเป็นไปของมันอยู่แล้ว เราจึงขอให้ทางวงช่วยเล่าถึงรายละเอียดต่างๆ ของตัวเพลง ก่อนที่จะปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกัน
“สำหรับซิงเกิ้ลเตลิด แรกสุดผมถูกมอบหมายจากพี่จุ๊บ วุฒินันต์ ให้ไปประกบกับพี่ฟองเบียร์ เหมือนไปอยู่เป็นเพื่อนพี่เค้าในการแต่งเพลง ก็เลยชวนกันไปที่ฮ่องกง…” ศิลา นามเทพ มือกีต้าร์และสมาชิกคนที่ 5 ของวง Zeal เริ่มเล่าถึงที่มาของซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของทางวง
“ระหว่างนั้นพี่เบียร์เค้าก็จะชวนคุยไปเรื่อยๆ ถามว่าวงเป็นยังไงบ้าง อินกับเพลงแนวไหนอยู่ แล้วพี่เค้าก็คิดทำนอง คิดเนื้อร้องไปเรื่อยๆ มีอยู่จังหวะหนึ่งพี่เค้ากำลังอาบน้ำอยู่แล้วก็ฮัมเพลงขึ้นมา เราก็ได้ยินแล้วคิดในใจ เพลงนี้แล้วมั้ง เสร็จแล้วพี่เค้าก็บอกว่า ศิลา ได้แล้วว่ะ เพลงนี้แหล่ะ จากนั้นพี่เค้าก็เล่าให้ฟังว่าเพลงนี้พี่ใช้คำว่าเตลิด คำนี้ยังไม่เคยมีใครใช้ แล้วตัวละครในเพลงนี้เป็นคนเดียวกับในเพลงหมดชีวิตฉันให้เธอ ซึ่งเหมือนเป็นเรื่องราวในอีกมุมหนึ่งซึ่งเกิดจากผู้หญิงคนนี้”
“ก่อนหน้านี้ต้องย้อนเล่าให้ฟังก่อนว่า ปกติพี่ฟองเบียร์แกจะไปไหน ทำอะไร แกมักจะพาผมไปด้วยบ่อยๆ ใช้ชีวิตอยู่กับแกจนครั้งหนึ่งเราไปกินข้าวกันแถวๆ ที่เราจะไปประชุม แล้วเค้าก็บอกว่า เนี่ย รู้ป่ะ ผู้หญิงคนที่อยู่ในเพลงหมดชีวิตฉันให้เธอน่ะ บ้านอยู่ในซอยนี้แหล่ะ แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในรายละเอียด จนกินข้าวเสร็จแล้วพี่เค้าก็บอกว่า ศิลา เราลองไปวนผ่านหน้าบ้านเค้ามั้ย เหมือนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจอะไรบางอย่าง (หัวเราะ)”
“ตอนนั้นผมอยู่อังกฤษ ศิลาก็ส่งมาให้ฟัง เราก็ฟังจากโทรศัพท์ ตอนนั้นฟังครั้งแรกแบบเป็นเดโมก็ตื่นเต้นนะ รู้สึกชอบ ชอบเลยล่ะ มันมีคำที่เราคิดไม่ถึงว่ามันจะออกมาในเพลงได้ แต่พอมันออกมาแล้วมันลงตัว ซึ่งต้องยอมรับในฝีมือ การเลือกใช้คำของพี่ฟองเบียร์ มันเห็นถึงบรรยากาศภายในเพลงเลยว่าการที่คนเราอยู่คนเดียว แล้วเกิดอาการเตลิด มันเป็นยังไง แล้วที่สำคัญคือผมคิดว่าเพลงนี้มันน่าจะครองใจคนฟังได้ไม่ยาก เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะผ่านประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกแบบในเพลงกันมาบ้าง” เป็กซ์ ปราชญ์ พงษ์ไชย นักร้องนำกล่าวเสริม
นอกจากนั้นแล้ว สิ่งพิเศษอีกอย่างเกี่ยวกับซิงเกิ้ลเตลิดนั่นคือการที่ทางวงมีโอกาสได้ร่วมงานกับ ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธุ์ ในฐานะนักแสดงนำในเอ็มวี แถมยังได้ผู้กับกับฝีมือดีอย่าง เจษฎา หันช่อ มากุมบังเหียนถ่ายทอดเรื่องราวในบทเพลงให้กลายเป็นภาพขึ้นมาอีกด้วย
สำหรับแฟนเพลงที่กำลังรอคอยที่จะได้ฟังอัลบั้มเต็มนั้น ทางวงได้เผยให้ฟังด้วยว่าตอนนี้มีการพูดคุยกันไว้แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นไปในรูปแบบของอีพีอัลบั้มซึ่งน่าจะเป็นรูปเป็นร่างในเร็วๆ นี้ รวมถึงคอนเสิร์ตใหญ่ของทางวงก็เช่นกัน ทางวงก็ได้เผยด้วยว่าเริ่มมีการพูดคุยกันถึงแนวทางกันมาบ้างแล้ว เพราะในส่วนของทางวงนั้นพร้อมอยู่แล้วและแน่นอนแฟนเพลงก็พร้อมเช่นกัน แต่ยังคงมีรายละเอียดในส่วนอื่นๆ ซึ่งน่าจะสรุปกันได้ภายในไม่นานนี้ บางทีอาจเป็นกลางปีหน้า หรือปลายปีอาจได้ชมกัน
นับเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่ยังคงเหนียวแน่นในความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในวง และยืดหยัดความเป็นตัวตนอยู่เสมอ ไม่ว่ากระแสดนตรีจะหันไปทางไหนก็ตาม เรายังคงได้เห็นผลงานของวง Zeal กันอยู่เรื่อยๆ แม้บางครั้งอาจมีบางช่วงที่ห่างหายกันไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงทำงานอันเป็นที่รัก และเป็นที่รักของแฟนเพลงอยู่เสมอ
สำหรับแฟนๆ วง Zeal สามารถสนับสนุนผลงานของพวกเขาได้ที่ดาวน์โหลด *492 222 108 รวมถึงช่องทาง Music Streaming ต่างๆ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป