กรุงเทพฯ ประเทศไทย – เชฟโรเลต ประเทศไทยเผยโฉมรถกระบะต้นแบบโคโลราโดที่โดดเด่นด้านการออกแบบในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 วันนี้ สร้างความตื่นตาให้กับเหล่าคนรักรถกระบะทั่วประเทศ
รถกระบะต้นแบบทั้งรุ่นอาร์เอส สตรีท ตัวเตี้ย และรุ่นโคโลราโด แพนเธอร์ สไตล์ยกสูง ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่องานครั้งนี้ โดยรถต้นแบบทั้งสองคันพร้อมอวดโฉมร่วมกับรถกระบะโคโลราโด อาร์เอส อีดิชั่น ที่เพิ่งเปิดตัวไป เสริมทัพด้วยรถอเนกประสงค์ แคปติวา ใหม่ และรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ ที่บูธเชฟโรเลต
พร้อมกันนี้เชฟโรเลต ประเทศไทย ได้ประกาศในงานมหกรรมยานยนต์ว่ารถกระบะโคโรลาโดและรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์สามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ว นี่คือก้าวสำคัญของการพัฒนารถยนต์เพื่อลูกค้าทุกคน ไม่เพียงช่วยลูกค้าประหยัดค่าน้ำมันแต่เชฟโรเลตได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อีกด้วย
รถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่นที่นำมาแสดงในงานครั้งนี้มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ เชฟโรเลต น็อค เอ้าท์ ดีล รับโปรแรงส่งท้ายปีเมื่อจองรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่นที่บูธเชฟโรเลต A02 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี งานมหกรรมยานยนต์ หรือที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตทั่วประเทศ
ภายใต้ธีม “Challenge All Possibilities” หรือ ก้าวผ่านทุกความท้าทายไปกับเชฟโรเลต เชฟโรเลต ประเทศไทยได้เผยโฉมรถกระบะต้นแบบ 2 สไตล์ที่ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ โคโลราโด อาร์เอส สตรีท รถกระบะตัวเตี้ย ที่นำ โคโลราโด อาร์เอส อีดิชั่น มาตกแต่งในสไตล์มอเตอร์สปอร์ต สวยสะกดทุกสายตา ด้วยลายสติ๊กเกอร์สุดเท่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับตำนานของเชฟโรเลต ที่ใช้แข่งขันในรายการแข่งรถ NASCAR และตอบสนองความนิยมการตกแต่งรถกระบะในประเทศไทย
รถกระบะต้นแบบคันนี้มีพื้นฐานมาจากรุ่นโคโลราโด เอ็กซ์-แคป แอลที อาร์เอส ซึ่งเป็นรถกระบะเพื่อคนรักรถแต่ง สะกดทุกสายตาด้วยช่วงล่างโหลดเตี้ย ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เบาะแบบรถแข่งพร้อมรางเบาะของ RECARO ชุดพวงมาลัยแบบรถแข่ง หัวเกียร์แบบสปอร์ต แป้นเบรกและคลัทช์ พร้อมมาตรวัดแบบรถแข่ง และดิสก์เบรกหน้า-หลังของ Brembo โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยสติ๊กเกอร์ ตกแต่งตัวรถโดยได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานรถเชฟโรเลตจากการแข่งขัน NASCAR อันเลื่องชื่อ และถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษโดยทีมออกแบบของจีเอ็ม ประเทศออสเตรเลีย
ส่วนรถกระบะต้นแบบอีกคันหนึ่ง คือ โคโรลาโด แพนเธอร์ ซึ่งเป็นรถกระบะยกสูงเปี่ยมด้วยสมรรถนะ รถต้นแบบคันนี้ได้รับการพัฒนามาจากรถกระบะโคโลราโด มิดไนท์ อีดิชั่น (รถกระบะไฮคันทรี รุ่นพิเศษ) ด้วยความช่วยเหลือของทีมวิศวกรของจีเอ็ม ประเทศออสเตรเลีย โดยทีมสร้างสรรค์ต้องการสร้างรถกระบะที่มีความดุดัน รถคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันรถกระบะออฟโรดรายการ Baja และรถต้นแบบพิเศษรุ่นต่างๆ ที่ทำให้เชฟโรเลตก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของวงการรถกระบะ กระบะโคโรลาโด แพนเธอร์ เกิดจากการตกแต่งรถกระบะโคโลราโด ไฮคันทรี ให้มีความแข็งแกร่ง สมบุกสมบัน และเปี่ยมด้วยสมรรถนะยิ่งขึ้น พร้อมพิชิตความหฤโหดในทุกสภาพเส้นทาง
เชฟโรเลต ประเทศไทยและจีเอ็ม ประเทศออสเตรเลียได้เสริมเขี้ยวเล็บให้แพนเธอร์คันนี้พร้อมลุยเต็มที่ ด้วยอุปกรณ์เสริมแบบจัดหนัก ได้แก่ ชุดแผ่นเหล็กกันกระแทกแบบ 3 ชิ้น, รอกมอเตอร์ของ Warn® ติดตั้งแผงบนกันชนเหล็กแบบออฟโรด, ติดตั้งชุดลากพ่วงพร้อมใช้งาน, พ่นเคลือบกระบะท้าย ด้วยวัสดุกันกระแทกแบบสมาร์ทฟิต, ชุดแผงไฟสปอร์ทไลท์ ด้านหน้าแบบ LED สีดำ, กันชนท้ายแบบออฟโรด สีดำ พร้อมที่เหยียบด้านข้าง, ล้อแบบออฟโรดขับเคลื่อน 4 ล้อ, ยางลุยโคลนรุ่น KM3 จาก BF Goodrich และชุดช่วงล่าง OLD MAN EMU พร้อมติดตั้งฝาครอบกระโปรงหน้าเพิ่มความดุดันไปอีกขั้น
“รถกระบะต้นแบบทั้ง 2 คันนี้ สะท้อนให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปได้กับเชฟโรเลต โคโลราโด ซึ่งเป็นหนึ่งในรถกระบะตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถยนต์ เป็นรถที่เหมาะกับทุกความต้องการของคนไทยที่อยากปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรถเพื่อสะท้อนบุคลิกของตัวเอง” นายเฮกเตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
นายเฮกเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถแบบโหลดเตี้ยสไตล์รถแข่งและแบบยกสูงสไตล์ออฟโรดทั้งสองคันนี้เป็นอีกครั้งที่เชฟโรเลตพิสูจน์ว่าเราไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อลูกค้าทุกคน เราหวังว่ารถต้นแบบที่นำมาแสดงในงานมหกรรมยานยนต์จะทำให้คนรักรถกระบะในประเทศไทยร่วมก้าวผ่านทุกความท้าทายไปด้วยกันกับเชฟโรเลต”
รถกระบะโคโลราโด อาร์เอส อีดิชั่น พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของที่งานมหกรรมยานยนต์ สัมผัสความเข้ม เท่ โดนใจคนรักรถแต่ง บ่งบอกตัวตนของคนชอบความเร็วและแรง ตกแต่งด้วยดีไซน์ดิบดุ ผลิตจำนวนจำกัด เพียง 200 คัน ในราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 10,000 บาท จากรุ่นปกติ รุ่นเอ็กซ์–แคป ราคาเริ่มต้นที่ 665,000 บาท และรุ่นซี–แคป ราคาเริ่มต้นที่ 789,000 บาท
พร้อมรองรับน้ำมัน B20 ได้แล้ววันนี้
นอกจากนี้ เชฟโรเลต ประเทศไทย ยังประกาศในงานมหกรรมยานยนต์ว่าขณะนี้เครื่องยนต์ ดูราแมกซ์ในรถกระบะโคโลราโดและรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์สามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ว
การพัฒนาเครื่องยนต์ของเชฟโรเลตเป็นการขานรับนโยบายด้านพลังงานจากภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนใช้น้ำมันไบโอดีเซลในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้มีเสถียรภาพในด้านราคา ป้องกันการลักลอบนำเข้า และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มซึ่งเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยมลพิษและลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ ทำให้นโยบายด้านพลังงานของไทยมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
“นี่คือก้าวสำคัญของการพัฒนาเพื่อลูกค้าทุกคน ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าน้ำมันแต่ยังมีส่วนในการลดมลพิษจากฝุ่น PM2.5 และเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรสวนปาล์มอีกทางหนึ่ง เชฟโรเลต ประเทศไทย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์ให้สามารถรองรับน้ำมัน B10 และ B20” นายเฮกเตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเพิ่มเติม
พบกับอาเล็ก ธีรเดช แอมบาสซาเดอร์ของแคปติวา ใหม่ และกิจกรรมผ่านโซเชียลมีเดีย
พบกับแขกรับเชิญคนสำคัญ คุณอาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ แอมบาสซาเดอร์รถอเนกประสงค์ แคปติวา ใหม่ ที่จะมาพบกับทุกคน และแนะนำแคปติวา ใหม่ ด้วยตัวเอง ในวันที่ 30 พ.ย. 62 เวลา 16:15 – 17:45 น. และสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากวงไทบ้าน ที่บูธเชฟโรเลต ในวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. 62 เวลา 14:00 น.พร้อมร่วมกิจกรรมรีวิวเพื่อค้นหา แคปติวา โซเชียล แอมบาสซาเดอร์ พร้อมของรางวัลมากมาย โดยร่วมสนุกได้ถึง 31 ธ.ค. 62
ผู้เยี่ยมชมบูธเชฟโรเลตสามารถร่วมสนุกในโครงการเฟ้นหา “แคปติวา โซเชียล แอมบาสซาเดอร์” ของรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ภายใต้แคมเปญ กล้า-ท้า-รีวิว โดยกิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ผู้ชนะเลิศจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “แคปติวา โซเชียล แอมบาสซาเดอร์” พร้อมรับเงินรางวัล 20,000 บาทต่อเดือน และได้สิทธิ์ในการขับรถอเนกประสงค์ แคปติวา ใหม่ เป็นระยะเวลา 1 ปี (พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง ไม่รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง) ผู้ชนะเลิศจะต้องผลิตวิดีโอคลิปเกี่ยวกับแคปติวา ใหม่ จำนวน 2 คลิปต่อเดือน และโพสต์บนโซเชียลมีเดียของตนเป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน คลิกที่นี่
กิจกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำจากเชฟโรเลต ได้แก่ Boldest VR Challenge, เกม Knock-Out Deal Boxing, จอแสดงผลแบบอินเตอร์แอคทีฟ Chevy Tech และการนำเสนอข้อมูลรถผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ให้ผู้เยี่ยมชมสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดูข้อมูลต่างๆของรถเพิ่มเติม
น็อค เอ้าท์ ดีล โปรแรงส่งท้ายปี
สำหรับสมาชิกเชฟวีพลัสที่ทำการจองรถยนต์เชฟโรเลตในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 และรับมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จะได้รับบัตรสมนาคุณโรงแรมในเครือ Centara มูลค่า 4,000 บาท โดยบัตรสมนาคุณดังกล่าวจะส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายใน 60 วันหลังจากวันออกรถ
เชฟโรเลต น็อค เอ้าท์ ดีล รับโปรแรงส่งท้ายปีเมื่อจองรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่นที่บูธเชฟโรเลต A02 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี งานมหกรรมยานยนต์ หรือที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
* เฉพาะลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ในรุ่นที่ร่วมรายการและรับมอบรถยนต์ระหว่าง 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2562 จึงสามารถร่วมโปรโมชั่นนี้ได้
รายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชั่นเชฟโรเลต น็อค เอ้าท์ ดีล เข้าชมได้ที่ www.chevrolet.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1734 และผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลต ทั่วประเทศ