ช่วงหน้าฝน ที่ใครๆ ก็ปฏิเสธการไปเที่ยวทะเลเพราะกลัวสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงคุณอาจพลาดโอกาสอะไรดีๆ ไปที่จะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติในช่วงฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงภาคใต้ สิ่งที่เราคิดสิ่งแรกคือการไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง แต่เมื่อไม่นานมานี้เราได้รับคำเชิญให้ไปเที่ยว “สุราษฎร์ธานี” ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่อง “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” โดยเฉพาะหอยใหญ่ที่เราจะพาคุณไปพิสูจน์กัน
นี่เป็นการมาสุราษฎร์ธานีครั้งแรก และไม่ได้ไปเที่ยวทะเลแบบเดิมๆ อย่างที่ใครคิด แต่เรามุ่งหน้าตรงไปลงเรือที่ติดต่อไว้เพื่อไปสัมผัสกับอาหารมื้อพิเศษที่ “ขนำน้อยหอยใหญ่” ร้านอาหารทะเลบนขนำเฝ้าหอยนางรม กลางทะเลอ่าวท้องบึก อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แหล่งเลี้ยงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในประเทศไทย ความแตกต่างของการทานอาหารที่นี่ ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่เสมือนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบวิถีธรรมชาติ พักจากเมืองมาสู่ความสงบในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม
ขนำ = ชื่อเรียกกระท่อม หรือเพิงพักที่สร้างไว้ในพื้นที่เฝ้าหอยนางรมปลูกไว้กลางน้ำ
“ขนำน้อยหอยใหญ่” เกิดจากแนวคิดเจ้าของฟาร์มที่มีเพื่อนมาเที่ยวตกปลาทำอาหารกินกันบนขนำ ทำให้เกิดความคิดว่าเมื่อมีขนำ มีหอยนางรมสดๆตัวใหญ่ๆจากฟาร์มตัวเอง จึงอยากให้นักท่องเที่ยวมากินในราคาย่อมเยาว์ และได้เพลิดเพลินชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามกลางทะเลที่เห็นวิวหมู่เกาะอ่างทอง เกาะปราบ สะพานศรีสุราษฎร์แบบพาโนราม่า ส่วนวัตถุดิบอย่างกุ้ง หอยแมลงภู่ หอยแครง ปู ปลา มาจากทะเลและคลองในพื้นที่นี้จริงๆ ปรุงอาหารโดยแม่ครัวมือ1ในตำบล ด้วยรูปแบบที่เอ็กซ์คลูซีฟ ต้องจองล่วงหน้า พร้อมกับจำกัดจำนวนคน
เมื่อไปถึงจุดลงเรือ เราได้พบกับพี่เชนที่เป็นเจ้าของขนำแห่งนี้ ผู้ใหญ่ใจดีท่าทางสมาร์ทที่พร้อมต้อนรับพวกเราอย่างเป็นกันเอง เราลงเรือไปพร้อมกับทีมคุณป้าในการทำอาหาร นั่งเรือดูวิวแม่น้ำสองข้างทางในบรรยากาศเย็นๆ หลังจากฝนพรำลงไป
ระหว่างทางนั่งเรือก่อนจะไปถึงขนำ พี่เชนให้แวะชิมหอยนางรมสดๆ ประสบการณ์ครั้งแรกที่ทีมงานของพี่เชน ดำน้ำลงไปหยิบหลักเกาะของหอยขึ้นมาให้เราได้ดู และแกะหอยนางรมกันสดๆ พร้อมใส่ปาก
สัมผัสแรกสมคำร่ำลือ หอยตัวใหญ่เท่าฝ่ามือรสชาติหวานที่มาจากเนื้อสดๆ พอดีคำ เป็นการกระตุ้นความอยากอาหารที่กำลังจะได้ทานแบบ Full Set บนขนำ ความน่าสนใจของขนำน้อยแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นมื้อแสน Exclusive แต่เมื่อเราได้นั่งคุยกับพี่เชนเจ้าของขนำแห่งก็ได้รับรู้เรื่องราวที่น่าสนใจบางอย่าง
หลังจากพี่เชนได้ซื้อกิจการหอยนางรมที่บริเวณนี้ไว้ในช่วงที่กิจการกำลังเจริญรุ่งเรืองในระยะแรกๆ กลับต้องพบกับวิกฤติการณ์ธรรมชาติปี 2554 น้ำท่วมครั้งใหญ่ซึ่งมีผลกระทบต่อฟาร์มหอยของพี่เชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดการผลัดเปลี่ยนของน้ำทะเล และหอยก็ตายเป็นจำนวนมาก แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี จากเดิมที่ที่นี่เป็นฟาร์มหอยนางรม หลังจากน้ำท่วม วงจรของกระแสน้ำมีการผลัดเปลี่ยนทำให้หอยแครงได้เกิดขึ้น และเปลี่ยนระบบน้ำใหม่ หอยนางรมค่อยๆ ฟื้นตัวและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพของน้ำที่ดีกว่าเดิม นอกจากหอยจะเป็นหอยที่โตตามธรรมชาติ อาหารที่พี่เชนจัดมาให้เราทานยังเกิดจากการช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน ให้ชาวบ้านได้มีรายได้ จากการซื้อวัตถุดิบต่างๆ จากชาวบ้านมาทำให้เราทาน
จึงนับว่าเป็นโชคดีที่เราได้มีโอกาสมาทาน หอยสดๆ ใหญ่ๆ ณ ที่แห่งนี้ พร้อมกับฝีมือแม่ครัวท้องถิ่นผู้ชำนาญในการปรุงรสและเข้าใจวัตถุดิบของตัวเองเป็นอย่างดี
สำหรับใครที่จะแวะมาที่ขนำน้อยแห่งนี้ คุณจะได้อิ่มอร่อยสุดๆ กับหอยนางรมแบบไม่อั้น กับรสชาติที่เข้มข้นแบบใต้ๆ
เวลาเปิด–ปิด11:00-18:30น.
รับมื้อละ1โต๊ะ 2ช่วงเวลา 11:00-14:00น.
16:00-18:30น. รับ6ท่านขึ้นไป
จองโต๊ะล่วงหน้าผ่าน Inbox FB ขนำน้อยหอยใหญ่ เท่านั้น!!!
อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี
เมนูพร้อมเสิร์ฟ10เมนู
1.หอยนางรมสด ไม่อั้น
2.ปูไข่ทะเล ตามฤดู
3.หอยแครงลวก
4.หอยแมลงภู่ลวก
5.น้ำพริกกุ้งสด หรือ แกงส้มปลาตามฤดู
6.ห่อหมกไข่ปลาริวกิว
7.ผัดใบเหลียงไข่ หรือ ยำไข่เค็มไชยา
8.ต้มยำกุ้ง หรือ ข้าวผัดทะเล
9.ปลาจวดทอด หรือ กุ้งหวาน
10.ผลไม้ ขนมไทยตามฤดู
✔️ราคาต่อท่าน (ผู้ใหญ่)
ราคาอาหาร+เรือรับส่ง 1,200บาท
ราคาอาหาร+เรือ+รถรับส่งที่พักในเมืองสุราษฎร์ 1,500บาท
✔️ราคาต่อท่าน (เด็ก)
1-7ปี ฟรีค่าอาหาร
8-12ปี ลด50%
12ปีขึั้นไปเต็มราคา
นอกจากการมาเที่ยวขนำแล้ว หาใครยังไม่รู้จะไปทำกิจกรรมไหนดีที่นอกจากแวะกิน อินเพลินๆ เราขอแนะนำการนั่งเรือเที่ยวคลองชุมชนบางใบไม้ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “คลองร้อยสาย” เพราะมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยสายเชื่อมต่อกัน แม่น้ำทุกสายจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำบางตาปี สำหรับใครที่อยากนั่งเรือชมธรรมชาติในมุมมองที่ต่างไปจากเดิม เราขอให้แวะมาที่นี่ เพราะบางใบไม้เต็มไปด้วยใบไม้สมชื่อ ให้ลองจินตนาการก่อนไปคือ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยใบจากและต้นไม้นานาพรรณจำนวนมากขึ้นหนาแน่นตลอดสองฝั่งคลอง และการที่เกิดกระบวนการที่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ต้นไม้แต่ละต้นมีความงามที่ต่างกันออกไป นอกจากต้นจากที่เด่นและมีจำนวนมากในบริเวณนี้ ยังมีต้นมะพร้าวสูงใหญ่ ทั้งหมดล้วนสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่นี่ ไม่ว่าจะทำสวนมะพร้าว หรือทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งความสมบูรณ์ของทรัพยากรที่มีอยู่หลากหลาย ทำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไฮไลท์ระหว่างทางคือ “อุโมงค์จาก” ที่เกิดจากการโค้งเข้าหากันของต้นจากอย่างเป็นธรรมชาติ ดูแล้วสบายตา สดชื่น สร้างพลังสำหรับจะเริ่มต้นวันใหม่ในกรุงเทพฯ เมืองอันแสนวุ่นวายได้อีกมากทีเดียว
สำหรับใครที่จะแวะมาสุราษฎร์ ก็อย่าลืมมาที่ “ขนำน้อยหอยใหญ่” และ บางใบไม้แห่งนี้ รับรองว่าดี สมชื่อคำร่ำลือของดีเมืองสุราษฏร์