โตเกียว, ฟุกุโอกะ, โอซาก้า, ฮิโรชิม่า, เกียวโต ฯลฯ เมืองเหล่านี้เป็นเมืองที่ถูกจัดให้เป็น ‘เมืองยอดฮิตของญี่ปุ่น’ ที่นักท่องเที่ยวอย่างเรามักเดินทางไปเยือนอยู่เสมอ แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจากเมืองติดอันดับเหล่านี้แล้ว ญี่ปุ่นยังมีเมืองประวัติศาสตร์ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกซ่อนอยู่ “ฮาโกดาเตะ” (Hakodate) คือเมืองที่เรากำลังกล่าวถึง แม้ชื่อเมืองอาจจะไม่คุ้นหู แต่รับรองว่าคุณจะได้เสพย์บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
‘ฮาโกดาเตะ’ เมืองท่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของ ‘เกาะฮอกไกโด’ ตั้งอยู่ทางด้านตอนใต้ของเกาะ โดยฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยทะเล 2 ด้าน ทำให้เมืองนี้มีทัศนียภาพที่เลื่องชื่อ นอกจากนี้ฮาโกดาเตะยังเป็นเมืองท่าเรือพาณิชย์นานาชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมของเมืองจึงได้รับอิทธิพลจากตะวันตก จึงไม่แปลกหากฮาโกดาเตะจะเป็นเมืองที่อบอวลด้วยมนตร์เสน่ห์ของธรรมชาติมาผสมผสานกับวัฒนธรรมอย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เป็น 1 ในวิวที่สวยที่สุดในโลก
ไฮไลท์ของฮาโกดาเตะที่ต้องไปเยือนคือ “ป้อมโกเรียวกาคุ” (Fort Goryokaku) เมื่อมองมุมสูงจะเห็นป้อมนี้เป็นรูปดาว 5 แฉก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อว่า “ป้อมดาว 5 แฉก” แน่นอว่าเมื่อเป็นป้อม วัตถุประสงค์แรกของการสร้างคงหนีไม่พ้นพื้นที่สู้รบ ป้อมโกเรียวกาคุสร้างขึ้นในสมัยตระกูลโชกุนตระโทกุงาวะ พ.ศ.2400 ซึ่งปีสุดท้ายของสมัยเอโดะ หรือกว่า 150 ปีมาแล้ว โดยในสมัยนั้นป้อมโกเรียวกาคุทำหน้าที่เป็นปราการปกป้องเมืองฮาโกดาเตะจากการถูกคุกคามของมหาอำนาจตะวันตกครั้งสมัยที่อเมริกาต้องการกดดันให้ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทำให้สถาปัตยกรรมของป้องได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตก
จุดศูนย์กลางของป้อมโกเรียวกาคุเป็นอาคารหลังใหญ่ ซึ่งเป็น ‘สำนักงานปกครองฮาโกดาเตะ’ โดยในอดีตเคยเป็นที่ทำการรัฐบาลของฝ่ายสาธารณรัฐ เป็นศูนย์กลางการปกครองภาคเหนือในสมัยรัฐบาลโชกุน และได้ถูกทำลายในยุคการล่มสลายของรัฐบาลโชกุน แต่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากการรวบรวมรูปในอดีตและเอกสารอ้างอิงต่างๆ จนได้อาคารที่มีสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ให้เราเสพย์ความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
ถัดเข้าไปด้านหลังของอาคารสำนักงานคือ ‘หอคอยโกเรียวกาคุ’ (Goryokaku Tower) หอคอยรูปทรง 5 เหลี่ยม สูง 107 เมตร เป็นจุดชมวิวเมืองฮาโกดาเตะที่ทำให้เราสามารถชมป้อมปราการรูปดาว 5 แฉกได้อย่างเต็มตาและชัดเจนกับทัศนียภาพแบบพาโนราม่า
นอกจากนี้ป้อมโกเรียวกาคุยังได้ชื่อว่าเป็น ‘จุดชมซากุระที่สวยที่สุด’ แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยหลังหมดยุคสงครามป้อมโกเรียวกาคุถูกดัดแปลงเป็นสวนสาธารณะที่มีต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ที่สำคัญซากุระของที่นี่ยังเป็น ‘ซากุระที่บานช้าที่สุด’ เนื่องจากฮอกไกโดตั้งอยู่ด้านบนสุดของญี่ปุ่น ทำให้เข้าสู่หน้าร้อนช้ากว่าเมืองอื่นๆ ดังนั้นแม้จะเข้าสู่เดือนพฤษภาคม เราก็ยังได้ชมความงามของซากุระสีชมพูที่เบ่งบานเต็มพื้นที่ป้อม โดยจะกลายเป็นสีเขียวสดใสในเดือนมิถุนายน – กันยายน ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนจะได้ชมไม้เปลี่ยนสี ที่ทำให้ป้อมโกเรียวกาคุกลายเป็นสวนสีส้ม และจบด้วยสีขาวโพลนของในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้ฮาโกดาเตะเป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งที่เราอยากให้นักเดินทางไปเยือนในช่วงฤดูหนาวนี้ส่วนข้อมูลการเดินทางไม่ต้องเตรียมให้ยุ่งยาก เพราะเรามีแพ็คเกจทัวร์คุณภาพจาก “ทัวร์ครับ” ศูนย์รวมแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศที่คัดสรรแต่ทัวร์คุณภาพ ในราคาสุดคุ้ม ให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องวางแผนท่องเที่ยวให้เหนื่อย ดูรายละเอียดแพ็คเกจทัวร์ฮอกไกโดได้ที่ https://www.tourkrub.co/route/