จัดอันดับ 5 นักสู้ดาวเด่นแห่งปี ที่ทำให้สังเวียนดุเดือดและไร้ปราณี
จัดอันดับ 5 นักสู้ดาวเด่นแห่งปี
ที่ทำให้สังเวียนดุเดือดและไร้ปราณี
คงไม่มีใครไม่รู้จัก One Championship สปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ ที่ขึ้นแท่นอันดับ 1 แห่งเอเชียกับการแสดงศิลปะการป้องกันตัว โดยตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา นักสู้บนสังเวียน One Championship ได้พัฒนาและฝึกฝนตัวเอง เพื่อพิสูจน์ฝีมือให้ได้ชมกันหลายต่อหลายไฟต์ และนี่คือ 5 ซูเปอร์สตาร์นักกีฬาที่แข็งแกร่งและมีผลงานโดดเด่นที่สุดแห่ง One Championship ประจำปี 2017
05. Aung La N Sang
ชายผู้นี้มีฉายาว่า “อสรพิษแห่งเมียนมาร์” (The Burmese Python) กับการเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งประวัติศาสตร์วงการกีฬาของเมียนมาร์ จากความสามารถที่จับคู่ต่อสู้ใส่ท่าซับมิชชั่นจนต้องขอยอมแพ้ตลอด 12 ครั้งที่ผ่านมา แม้ช่วงต้นปี วันที่ 14 มกราคม เขาจะเริ่มต้นได้ไม่ดีนักเมื่อพ่ายแพ้คะแนนต่อ Vitaly Bigdash จากรัสเซีย ในการชิงเข็มขัดแชมป์ที่จาการ์ต้า อินโดนีเซีย แต่การเจอกันอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายนที่่ผ่านมา Aung La N Sang ก็กระชากเข็มขัดรุ่นมิดเดิลเวทของ ONE มาประดับกายได้สำเร็จ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ชายหนุ่มวัย 32 ปีคนนี้ได้เดินทางกลับบ้านเกิดอีกครั้งในฐานะแชมป์โลก พร้อมโชว์ฟอร์มจัดการ Alain Ngalan อดีตนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งจอมแกร่งลงได้สำเร็จ แม้พิกัดน้ำหนักจะต่างกันพอสมควร แต่การต่อสู้ก็จบเพียงแค่ยกแรกเมื่ออสรพิษแห่งเมียนมาร์ จับคู่ต่อสู้ใส่ท่ากิโยติน โชค จนต้องยอมแพ้แค่ยกแรกเท่านั้น และนั่นก็คือชัยชนะสำคัญที่ทำให้ชื่อของ Aung La N Sang ก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาชั้นแนวหน้าของวงการ
04. Christian Lee
หนุ่มน้อยวัย 19 ปีที่แสดงความสามารถของตัวเองบนเวทีลูกกรงด้วยการคว้าชัยชนะ 5 ไฟต์รวดตั้งแต่ออกสตาร์ท ขณะที่ปี 2017 เขาตอกย้ำความเก่งกาจด้วยสถิติชนะ 2 ไฟต์ติดต่อกันเหนือ Wan Jan Ping ที่มะนิลา ฟิลิปปินส์และเอาชนะ Keanu Subba ได้ที่กัวลา ลัมเปอร์ มาเลเซีย
โดยไฟต์สำคัญ เมื่อเดือนธันวาคมที่ประเทศไทย Christian Lee ต้องเผชิญหน้ากับอดีตแชมป์โลกรุ่นไลต์เวทของรายการอย่าง Kotetsu Boku จากญี่ปุ่น เขาอาศัยชั้นเชิงที่ยอดเยี่ยมของตัวเองบนเวที ก่อนจับอีกฝ่ายเทคดาวน์แล้วรัวหมัดจนชนะน็อคในที่สุด และชัยชนะอันน่าประทับใจนี้ก็ทำให้ชายที่ชื่อ Christian Lee มีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นบนสังเวียนลูกกรงแห่งนี้
03. Kevin Belingon
นักกีฬามากประสบการณ์จากฟิลิปปินส์ ผ่านสังเวียนลูกกรงมาอย่างโชกโชนพร้อมสถิติชัยชนะ 16-5 กับความชำนาญในศิลปะการป้องกันตัวแบบวูซู ครั้งหนึ่งหลังจากที่เขาเสียเข็มขัดแชมป์รุ่นแบนตัมเวทให้แก่ Bibiano Fernandes เดือนมกราคม ปี 2016 นักสู้วัย 30 ปี ก็ไม่หยุดพัฒนาตนเอง เขาฝึกฝนฝีมือและเรียกความมั่นใจกลับมาด้วยการเดินหน้าปราบคู่ต่อสู้ถึง 3 รายในปี 2017
ไฟต์ที่โดดเด่นของเจ้าตัวคือการเจอกับ Reece McLaren ที่มาเลเซีย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาใช้เวลาเพียง 62 วินาที ในการส่งหมัดน็อคใส่ Mclaren จนได้รับชัยชนะ ก่อนจบปี 2017 อย่างน่าประทับใจเมื่อจัดการ Kevin Chung คู่ต่อสู้จากเกาหลีใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ฟิลิปปินส์ ก่อนเอาชนะคะแนนได้ในที่สุด ส่วนปี 2018 เขาจะต้องเจอกับ Bibiano Fernandes อีกครั้งในการรีแมตช์ เพื่อทวงเข็มขัดแชมป์โลกแบนตัมเวทกลับมาเป็นของตนเอง
02. Alex Silva
ปี 2017 นับเป็นช่วงเวลาอันแสนน่าจดจำของ Alex Silva เมื่อเจ้าตัวสามารถพิชิต “เจ้าโนบิตะ” Yoshitaka Naito คู่ต่อกรจากญี่ปุ่นจนกระชากเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวท มาเป็นของตัวเอง อันถือเป็นความฝันที่เจ้าตัวได้ทำสำเร็จจนได้หลังจากฝ่าฟันคู่ต่อสู้มาหลายรายตลอดทั้งปี
เมื่อเดือนธันวาคมในศึก Warriors of the World ที่เมืองไทย นักสู้เลือดแซมบ้าได้แสดงชั้นเชิงที่เหนือกว่า เล่นงาน Yoshitaka Naito เจ้าของเข็มขัดรุ่นสตรอว์เวท ตลอดทั้ง 5 ยก ก่อนได้รับชัยชนะ ถูกประกาศให้เป็นแชมป์โลกคนใหม่ และปี 2018 น่าจะเป็นปีที่นักสู้คนนี้จะได้แสดงความสามารถต่อสายตาแฟนหมัดมวยให้ได้ประทับใจกันอย่างต่อเนื่อง
01 Martin Nguyen
ไม่มีนักสู้คนไหนอีกแล้วที่แข็งแกร่งเกินกว่าชายที่ชื่อ Martin Nguyen กับตัวเลขชัยชนะในปีนี้ที่ 10 ไฟต์ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีทักษะการต่อสู้ระดับสูงแบบครบเครื่อง และเขาได้พิสูจน์ความเก่งการให้ทุกคนได้ประจักษ์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่มาเลเซีย กับการปล่อยหมัดพิชิต Marat Gafurov ผู้ไร้พ่ายจาก รัสเซียในยก 2 จนกระชากเข็มขัดรุ่นเฟเธอร์เวท มาเป็นของตนเอง
จากนั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ณ ฟิลิปปินส์ Martin Nguyen ได้กลับขึ้นสังเวียนอีกครั้งเพื่อเจอกับ Eduard Folayang ฮีโร่ของเจ้าถิ่น และผลลัพธ์ที่ได้คือชัยชนะ เมื่อเขาประเคนหมัดน็อคใส่ Folayang ในยกที่ 2 จนได้เข็มขัดแชมป์โลกรุ่นไลต์เวทมาครองอีกหนึ่งเส้น พร้อมจารึกชื่อของตัวเองลงในประวัติศาสตร์ One Championship ว่า Martin Nguyen คือนักสู้คนแรกที่ครอบครองเข็มขัดได้ถึง 2 เส้นด้วยกัน