8 Best Football Stud รองเท้าสตั้ดที่เขาบอกว่าดี

8 Best Football Stud รองเท้าสตั้ดที่เขาบอกว่าดี

แม้จะไม่ใช่นักฟุตบอลอาชีพ แต่ด้วยใจรักก็อยากได้รองเท้าฟุตบอลดีๆ เอาไว้ใช้เตะกับเพื่อนๆ หรือให้เพื่อนอิจฉาเล่น วันนี้เราจึงมี 8 รองเท้าสตั๊ดที่เขาว่าเป็น The Best มาฝากกัน !

01. Adidas ACE 17+ Pure Control

รองเท้ารุ่นเรือธงจากอาดิดาสในตระกูล ACE ซึ่งเป็นรองเท้าตระกูลหลักของอาดิดาสก็ว่าได้ โดยรองเท้ารุ่นนี้มาพร้อมกับการผสานเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของแต่ละด้านเอาไว้ด้วยกัน ทำให้ . Adidas ACE 17+ Pure Control เป็นรองเท้ารุ่นที่เต็มไปด้วยคุณภาพเกินขีดจำกัดเท่าที่อาดิดาสเคยมีรองเท้าสตั๊ดมา ไม่ว่าจะเป็นวัสดุเกรดพรีเมี่ยมที่ใช้ถักทออย่าง Primeknit ทำให้ Adidas ACE 17+ Pure Control มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับรูปเท้าของผู้สวมใส่ได้หลากหลาย พร้อมกับการออกแบบรายละเอียดผิวสัมผัสด้านนอกใหม่ให้สามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ที่สำคัญมาพร้อมกับรูปทรงแบบรองเท้าไร้เชือก ซึ่งสืบเนื่องมาจากรองเท้ารุ่นก่อนหน้า

02. New Balance Visaro 2.0 Pro

ส่วนรุ่นนี้เป็นตัวท็อปของแบรนด์ New Balance โดยจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบให้วิ่งสไลด์ได้อย่างคล่องตัว หนังรองเท้าเป็นวัสดุตาข่าย Ariaprene ขณะที่พื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากไนล่อนน้ำหนักเบา ส่วนโครงสร้างรองเท้าด้านในกว้างทำให้ผู้สวมใส่สลายเท้า ส่วนผิวสัมผัสด้านบนทกจากวัสดุ PU และปุ่มรองเท้า FG ทำให้ New Balance Visaro 2.0 Pro FG เป็นรองเท้าสตั๊ดที่เหมาะกับสนามหญ้าจริงที่มีความนุ่ม

03. Puma Esito Classico

รองเท้าที่มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายแฝงความหรูหรา เพิ่มความแข็งแร่งด้วยวัสดุหนังแท้ที่บุผิวด้านหน้า ขณะที่ปุ่มรองเท้าใช้วัสดุ TPU พร้อมติดเหล็กแผ่นเล็กๆ เพิ่มความทนทาน และช่วยสร้างควาสมดุลให้ผู้สวมใส่เมื่อเล่นในสนามพื้นหญ้าที่มีความอ่อนนุ่ม มาพร้อมรูปทรงรองเท้าแบบคลาสสิกที่ยังคงจุดเด่นเรื่องการสวมใส่ที่สบายเท้า ขณะเดียวกันก็สัมผัสลูกบอลได้อย่างเป็นธรรมชาติ

04. Adidas X 17+ PureChaos

รองเท้าสตั๊ดอีกหนึ่งคู่จากแบรนด์อาดิดาส แต่คู่นี้อยู่ในตระกูล X ที่แม้จะไม่โดดเด่นเท่า ACE แต่ก็ถือว่าเป็นรองเท้าฟุตบอลที่นิยมและดีอีกคู่หนึ่ง โดยรุ่นนี้เป็นรองเท้าสตั๊ดที่ซ่อนเชือกเอาไว้ใต้อัปเปอร์ ทำให้รูปทรงเสมือนรองเท้าไร้เชือก ขณะเดียวกันก็มีข้อดีที่ผู้สวมใส่สามารถปรับรองเท้าให้เข้ารูปเท้าได้ตามต้องการ เพราะราสามารถดึงเชือกให้แน่นหรือหลวมได้ตามต้องการ ที่สำคัญยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dynamic TechFit Compression ที่ช่วยให้รองเท้ากระชับรูปเท้าทันทีเสมือนถุงมือนั่นเอง

05. New Balance Furon 2.0 Pro

คู่นี้ก็เป็นรุ่นรองท็อปของแบรนด์ New Balance แม้จะบอกว่าเป็นรุ่นรองท็อปแต่ก็มีดีไม่แพ้กัน โดยจุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้อยู่ที่การใส่เทคโนโลยี FantomFit ทำให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา ส่วนภายในรองเท้าก็ยังคงเอกลักษณ์ด้วยพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้สวมใส่สบายเท้า พร้อมด้วยเชือกรองเท้าที่ออกแบบให้สมมาตร เพื่อช่วยกระชับเท้า เพิ่มความรวดเร็วในการวิ่งบนสนามหญ้าด้วยผ้าตาข่ายที่ผสมผสานกับหนังสังเคราะห์ รองรับการกระแทกด้วยปุ่มสตั๊ด FG ดีไซน์พิเศษสำหรับวิ่งในสนาม ซึ่งเหมาะกับสนามหญ้าจริงที่มีความนุ่ม

06. Nike Hypervenom Phantom 3

มาถึงคราวรองเท้าสตั๊ดจากแบรนด์ไนกี้กันบ้าง โดยรุ่นนี้เป็นตัวท้อปของไนกี้และยังเป็นรองเท้ารุ่นที่มีพัฒนาการที่ฉีกกฏรองเท้าสตั๊ดแบบเดิมๆ ของแบรนด์ทั้งด้านแนวคิดและการออกแบบ ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ว่า ‘Cut Strike Score’ รองเท้า Nike Hypervenom Phantom 3 โดดเด่นด้วยวัสดุฟลายนิต (Flyknit) ที่มีความยืดหยุ่นสูงและให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้า ขณะที่พื้นรองเท้าก็เสริมประสิทธิภาพในเรื่องการเลี้ยงลูกหลบจากฝ่ายตรงข้าม ที่สำคัญ Nike Hypervenom Phantom 3 ยังหุ้มถึงข้อเท้าด้วยโครงสร้างแบบวงแหวนครอบ ซึ่งเป็นการเลียนแบบการเคลื่อนไหวธรรมชาติของข้อเท้า ทำให้มีความคล่องตัวและเพิ่มขีดความสามารถของการเคลื่อนไหว

07. Umbro Velocita 3 Pro

จากรองเท้าสตั๊ดแบบคลาสสิกสู่รองเท้ารุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม โดย Umbro Velocita 3 Pro มาพร้อมดีไซน์แบบไม่มีลิ้นรองเท้า แต่มีโครงสร้างเสมือนรองเท้าไร้เชือก แต่จุดเด่นสำคัญคือความกระซับจากการตัดเย็บที่เย็บอัปเปอร์ต่อกันเป็นชิ้นเดียว (ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมรองเท้าถึงไม่มีลิ้น) จึงเหมาะสำหรับนักแตะสายเร็ว ส่วนวัสดุใช้ผ้ายืดไนล่อนเนื้อฟองน้ำเป็นหลัก เสริมโครงสร้างด้วย A-Frame ตรงปลายเท้าและกลางเท้าเพิ่มความกระชับ และเคลือบสาร TPU ตรงพื้นที่อัปเปอร์ เพื่อป้องกันและช่วยให้อัปเปอร์ทนทานต่อแดด น้ำ และโคลน

08. Nike Magista Opus II

รองเท้าสตั๊ดคู่สุดท้ายมาจากแบรนด์ไนกี้ที่ยังคงความโดดเด่นด้วยวัสดุด้ายถักฟลายนิต (Flyknit) มาใช้กับตัวรองเท้าทั้งหมด เพิ่มความพิเศษด้วยการใช้เทคนิคการทอด้วยเส้นด้ายเส้นเดียว ทำให้รองเท้าไร้รอยต่อ แถมยังทำให้รองเท้ากระซับเข้ากับรูปเท้าผู้สวมใส่ได้หลากหลาย ส่วนข้างในรองเท้าบุด้วยวัสดุคล้ายนวมเพิ่มความนุ่มสบายให้การสวมใส่ เสริมประสิทธิภาพในการสัมผัสผิวฟุตบอลด้วย Nike Skin ทั้งยังช่วยปกป้องเส้นด้ายฟลายนิตให้ใช้งานได้นานขึ้น และป้องกันการซึมผ่านของน้ำ ทำให้ Nike Magista Opus II สวมใส่เล่นบอลได้ทุกสภาวะอากาศ


อ้างอิง: www.independent.co.uk


SEE MORE…

http://www.favforward.com/35439/trend/sport/tiempo-legend-7/

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.