ดื่มด่ำเสน่ห์ของขนมไทยควบคู่กับชารสเลิศในคอนเซ็ปต์ Tea Culture ณ “เวฬาฌา”
ดื่มด่ำเสน่ห์ของ ‘ขนมไทย’ ควบคู่กับ ‘ชา’ รสเลิศ
ในคอนเซ็ปต์ Tea Culture ณ “เวฬาฌา”
จากความหลงใหลในเสน่ห์ของ ‘ใบชา’ จนกลายเป็นความชื่นชอบวัฒนธรรม Afternoon Tea ควบคู่กับเสน่ห์ที่งดงามทั้งหน้าตาและรสชาติของ ‘ขนมไทย’ เมื่อนำสิ่งเหล่านี้มารวมกันจึงเกิดเป็นคาเฟ่ “เวฬาฌา” (เว-ลา-ชา)
“ที่ใช้ชื่อร้านว่า เว-ลา-ชา เพราะต้องการเราสื่อถึง ‘เวลาดื่มชา’ (Teatime) ที่มีอยู่ในทุกๆ วัฒนธรรมทั้งตะวันตกและตะวันออก รวมถึงไทยเราด้วย และเราเล่นคำโดยใช้ ฬ กับ ฌ แทน”
คุณปอย จินตวรรณ เจ้าของร้านบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า “เป็นความชอบในเรื่องของใบชา และ Afternoon Tea หลายครั้งมีโอกาสได้เดินทางไปดูและสัมผัสกับวัฒนธรรม Afternoon Tea ในที่ต่างๆ เราจึงมีไอเดียที่จะนำกลับมาปรับให้เข้าถึงง่าย บวกกับกระแสละครไทยที่ผ่านมา ตัวเรารู้สึกว่าขนมไทยไม่ใช่กระแส แต่ขนมไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมเรามานาน พอพูดถึง Afternoon Tea คนก็จะนึกถึงความสวยงามของการจัดวาง ความสวยงามของตัวขนม และความมีวัฒนธรรม
ดังนั้นเอกลักษณ์ของขนมไทยที่เด่นชัด ทั้งความประณีตสวยงาม การจัดวาง ตกแต่ง เราคิดว่าสิ่งเหล่านี้สอดแทรกในวัฒนธรรมของคนไทยมานานมากอยู่แล้ว เลยได้ข้อสรุปว่า ขนมไทยไม่ใช่สิ่งใหม่ เราจึงนำความดั้งเดิมโบราณของขนมไทยมานำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ ผ่านการให้บริการที่ดีตามแบบฉบับของ Afternoon Tea ในยุคเริ่มแรก”
ตัวร้านเลือกตกแต่งในโทนสีน้ำเงินเป็นสีหลัก โดดเด่นด้วยจิตกรรมบนผนังที่ได้ทีมงานศิลป์ Art Longa ผู้วาดภาพสาวจีนบนฝาผนังโครงการล้ง 1919 มาถ่ายทอดเรื่องราวด้วยภาพกาน้ำชาที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า Tea Culture
“คอนเซ็ปต์ของร้านคือ ‘Tea Culture’ เพราะเราต้องการนำเสนอวัฒนธรรมการดื่มชาในแต่ละภูมิภาคของโลก ที่มีการถ่ายทอดผ่านภาชนะที่ใช้ในการให้บริการลูกค้า และผลงานภาพวาดฝาผนัง ซึ่งเป็นภาพที่มีเรื่องราวของกาน้ำชาที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ แสดงถึงวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึง ornament ในการตกแต่งที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมกันอย่างสิ้นเชิง แต่เราสามารถนำมาประกอบการตกแต่งร่วมกันได้เป็นอย่างดี เพื่อสื่อถึงความหลากหลายที่ลงตัว
ที่สำคัญทางร้านตั้งใจนำเสนอการ ‘แพริ่งชา’ (Tea Paring) ควบคู่กับ ‘ขนมไทย’ ที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม จึงพูดได้เลยว่า คอนเซ็ปต์หลักๆในการออกแบบตกแต่ง และสร้างบรรยากาศร้าน คือ Tea Culture ค่ะ
ส่วนที่เลือกสีน้ำเงินมาใช้ เกิดจากแนวความคิดว่า สีน้ำเงินคือ ‘สีไทย’ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีการใช้สีน้ำเงินมาเป็นเวลาช้านาน สีน้ำเงินถูกใช้ในการประกอบการตกแต่งมากมาย ไม่ว่าจะภาชนะลายคราม, ลายสัปปะรด หรือเครื่องนุ่งห่ม เช่น ม้อฮ่อม หรือ มัดย้อม เป็นต้น รวมไปถึงแม้แต่สีโทนฟ้า น้ำเงิน ยังมีโทนที่มีชื่อเรียกแบบไทย ว่า ‘คราม’ เราเลือกใช้สีนี้เป็นโทนสีหลัก”
เวฬาฌาตั้งใจเสิร์ฟขนมไทยดั้งเดิมผ่านรูปแบบที่แปลกใหม่จากการจัดวาง โดยยังคงความเป็นไทยโบราณเอาไว้อย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันก็หยิบยกความพิเศษของเครื่องดื่มประเภทชากว่า 70 ชนิดที่ผลิตขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษ จนได้ความหอมธรรมชาติมารังสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ให้มีรสชาติที่เข้าคู่กับขนมไทยอย่างลงตัว
ขนมไทยของคาเฟ่แห่งนี้มีจุดเด่นเรื่องรสชาติที่หวานกำลังดีและการทำสดใหม่ทุกวัน เป็นขนมไทยโฮมเมดที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่รสชาติไปจนถึงหน้าตาของขนมไทย ซึ่งรายการที่ร้านนำมาเสิร์ฟในแต่ละวันจะสลับสับเปลี่ยนไปมา เพื่อให้ลูกค้าได้แวะไปลองชิมขนมไทยโบราณได้แบบไม่มีเบื่อ
เพราะเป็นขนมไทยที่ทำสดใหม่แบบวันต่อวัน จึงมีเวลาในการทำไม่มาก ดังนั้นในแต่ละวันเวฬาฌาจึงเลือกขนมไทยที่ทำยากสลับกับขนมไทยที่ทำง่าย แต่ทุกวันต้องมีชุดขนมทองครบ 7 รายการ อย่าง “Kanom Thai Ruam” (290 บาท) หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์หลักของร้านกับการเสิร์ฟชนมไทยโบราณรสดั้งเดิมในรูปแบบแสนเก๋ เมนูนี้ประกอบด้วยทองหยิบ, ทองหยอด, เม็ดขนุน, ฝอยทอง, ลูกชุบ, กลับลำดวน และตะโก
แนะนำให้สั่งเครื่องดื่มชาร้อนมาทานคู่กับเซ็ตขนมไทยจะได้รสชาติและความอร่อยที่ลงตัว อย่างชาร้อน “Pina Colada” (199 บาท) นอกจากสีสันที่สวยงามของน้ำชาแล้ว ยังมีกลิ่นหอมธรรมชาติละมุน เสิร์ฟมาในกาให้เรารินดื่มร้อนๆ เมื่อรสชาติของชาร้อนตัดกับขนมไทยจึงกลายเป็นรสชาติที่ลงตัว
แต่หากอยากได้เมนูขนมหวานชื่นใจมาดับร้อน แนะนำให้ลิ้มลอง “ทับทิมกรอบสูตรโบราณ” (89 บาท) ทับทิมกรอบที่เสิร์ฟพร้อมน้ำกะทิอบควันเทียนหอมละมุน เติมรสสัมผัสเพิ่มความสนุกให้การรับประทานด้วยแห้วและมะพร้าวกะทิที่ทำให้เมนูนี้พิเศษยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูหวานเย็นแบบไทยๆ ที่เราถูกใจจนอยากให้ลิ้มลอง
ส่วนใครไม่ชอบดื่มเครื่องดื่มร้อน เวฬาฌายังมีเครื่องดื่มเย็นมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลิ้มลอง แนะนำ “Lychee Passion Ice Tea” (95 บาท) เครื่องดื่มชาที่ผสมรสชาติที่มีเอกลักษณ์ของลิ้นจี่เข้ากับเสาวรสอย่างลงตัว ให้รสหวานซ่อนเปรี้ยวชวนสดชื่น
“เครื่องดื่มของร้าน 90% เป็นเครื่องดื่มชา โดยเรามี Tea Selections กว่า 40 ชนิดสำหรับดื่มร้อนและชาอีก 30 ชนิดสำหรับดื่มเย็น ชาของเรามีความพิเศษอยู่ที่การผลิตใบชาด้วยเทคนิคพิเศษ ผ่านกรรมวิธีที่สะอาด ให้ความหอมของใบชาตามธรรมชาติ แล้วเราก็นำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูเครื่องดื่มชาใหม่ๆ ตลอดเวลา โดยเราเสิร์ฟคู่กับเซ็ตขนมไทยต่างๆ ชาทุกเบลนด์จะผ่านการดีไซน์มาแล้วว่าดื่มคู่กับทานขนมได้โดยไม่เสียรสชาติของชาชั้นดีและขนมไทยค่ะ”
เวฬาฌา
• Address: ซอยอารีย์ 1
• Map: https://goo.gl/maps/ZR94hGE7nGN2
• Time: เวลา 10.00 – 20.00 น. หยุดวันอาทิตย์
• FB: www.facebook.com/เวฬาฌา-620141691654439/
Story: Taliw
Photo: Sroisuwan.T