บนชั้น 28 ของโรงแรม Hyatt Place Bangkok สุขุมวิท 24 คือที่ตั้งของ AIRE BAR รูฟท็อปบาร์ที่เสิร์ฟความพิเศษไม่ซ้ำใคร ตั้งแต่ซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่ครีเอทรสชาติขึ้นใหม่ ควบคู่กับวิวเมืองในมุมสูงไกลสุดสายตา พร้อมกับการเปิดบาร์ให้โล่ง เพื่อให้เราสัมผัสสายลมและแสงแดดอย่างแท้จริง
หากพิจารณาความพิเศษของสถานที่แฮงเอ้าท์แห่งนี้ คงต้องเริ่มจากชื่อร้าน ‘Aire’ ซึ่งสื่อถึงคอนเซ็ปต์บาร์แห่งนี้ว่า สถานที่พักผ่อนในบรรยากาศชิวๆ ใจกลางเมือง โดยมีสายลมโอบล้อมอยู่เสมอ เพราะ Aire หมายถึง Air หรือ ‘อากาศ’ รูฟท็อปบาร์แห่งนี้จึงออกแบบให้เปิดโล่งตลอดทั้งชั้น เพื่อให้สายลมพัดผ่านตลอดเวลา พร้อมให้ความรู้สึกอิสระ ไม่อุดอู้อยู่เพียงห้องสี่เหลี่ยมติดเครื่องปรับอากาศ
โดยพื้นที่ภายใน Aire Bar แบ่งเป็น 2 โซนคือ โซน Indoor ที่จัดพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน โดยมีผนังสีเทากึ่งปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ทำหน้าที่สร้างความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงคอนซ็ปต์และความเป็น Aire ด้วยการเปิดผนังส่วนที่ติดกับเมืองให้โปร่งโล่ง ดังนั้นแม้จะเป็นพื้นที่ indoor แต่กลับเย็นสบายชวนสดชื่นด้วยลมที่พัดผ่านตลอดเวลา โดยมีวิวเมืองทำหน้าที่วอลเปเปอร์
แน่นอนว่าโซนที่เปรียบเสมือนไฮไลท์ของที่นี่ คงหนีไม่พ้นพื้นที่ Outdoor ซึ่งมี 2 ฝั่งของตึกให้เราเลือกนั่ง จุดเด่นที่ชวนตะลึงของพื้นที่โซนนี้คือ วิวเมืองในมุมมองที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ย้อมยอดตึกให้เป็นสีส้มทอง และวิวยามค่ำคืนที่มีแสงไฟจากตึกสูงทำหน้าที่เป็นดวงดาวส่องประกาย
นอกจากวิวและบรรยากาศชิวๆ จากสายลมที่พัดผ่านชวนสบายแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของ Aire Bar คือค็อกเทล ซึ่งครีเอทรสชาติขึ้นใหม่จากฝีมือมิกโซโลจิสต์ระดับโลก คุณ Nick Braun ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าซิกเนเจอร์ซิเนเจอร์ของที่นี่ให้สอร่อยไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน ซึ่งค็อกเทลของที่นี่เน้นความสดชื่นของผลไม้ควบคู่กับรสชาติที่ทานง่าย โดยเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพ
เริ่มจาก “Passion in the AIRE” (280 บาท) ค็อกเทลสีหวานที่เสิร์ฟรสพิเศษจากเสาวรส วอดก้า เวอร์มุธ และคาราเมล ท็อปด้วยฟองนุ่มๆ ที่ช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ละมุนให้การดื่ม จนได้ค็อกเทลแก้วพิเศษในสไตล์เก๋ไก๋แก้วนี้ ต่อกันด้วย “Sazzle” (280 บาท) ค็อกเทลสีแดงชมพูที่เบสความอร่อยจากจินและวอดก้า เติมรสเปรี้ยวอมหวานด้วยมะนาวและราสเบอร์รี่ เพิ่มมิติด้วยความหอมจากใบมะกรูด
แต่หากคุณชอบเครื่องดื่มร้อนแรงต้องไม่พลาดสั่ง “Suffering Bastard” (280 บาท) สาเหตุที่ทำให้ Suffering Bastard เป็นค็อกเทลแก้วร้อนแรง เพราะส่วนผสมที่สตรอง ทั้งจิน เบอร์เบิ้น และเหล้าบิตเตอร์ เติมมิติให้รสสัมผัสด้วยจิงเจอร์เบียร์กับมะนาว นอกจากนี้ Aire Bar ยังมีซิกเนเจอร์ค็อกเทลอีก 3 แก้วที่ชวนลิ้มลองคือ North Star, Rye on Thyme และ Pink Peppercorn Margarita
ส่วนเมนูอาหาร Aire Bar เน้นเสิร์ฟเมนูทานเล่น เป็นเมนูกรุบกรอบที่ไว้ทานคู่กับค็อกเทลในวันเบาๆ ไม่ว่าจะเป็น “Olives, Semi Sundried Tomatoes and Feta Cheese with Rye Bread” (320 บาท) มะกอกที่ผสานความอร่อยของเฟต้าชีส คลุกเคล้าความอร่อยกับ Semi Sundried Tomatoes หรือที่เรารู้จักในชื่อไทยมะเขือเทศตากแห้งในน้ำมัน เสิร์ฟคู่กับขนมปังไรย์
ใครที่ชอบเมนูเม็กซิกันต้องไม่พลาดกับ “Guacamole, Salsa with Corn Chips” (350 บาท) ที่เสิร์ฟความกรุบกรอบของนาโชส์ พร้อมด้วยซอสซัลซ่า เพิ่มความพิเศษด้วยอะโวคาโดดิป หรือจะลองสั่ง “Chilli Hummus and Pita Bread” (220 บาท) เมนูที่ผสมผสานความอร่อยของแป้งตอติญ่าคู่กับฮัมมูสถั่วขาวบดก็เป็นอีกรสชาติหนึ่งที่อร่อย เหมาะกับการทานคู่กับค็อกเทลรสพิเศษ
นอกจากนี้ Aire Bar ยังเสิร์ฟบรรยากาศผ่อนคลายด้วยดนตรีสดในค่ำคืนวันศุกร์, เสาร์ และวันอาทิตย์ โดยเฉพาะ Sunday Sessions ในวันอาทิตย์ที่ให้เราชวนแก๊งเพื่อนไปแชร์เครื่องดื่ม Pitchers Cocktails พูดคุยกันเพลินๆ เคล้าเสียงเพลงตั้งแต่บ่ายจรดค่ำ
AIRE BAR
• Address: ชั้น 28 ของโรงแรม Hyatt Place Bangkok สุขุมวิท 24
• Map: https://goo.gl/maps/w9R1doXaBQR2
• Time: วันจันทร์ เวลา 17.00 – 00.00 น. ศุกร์ – เสาร์ เวลา 17.00 – 01.00 น. และอาทิตย์ เวลา 15.00 – 23.00 น.
• FB: www.facebook.com/airebarbangkok/
Story : Taliw
Photo : Wara Suttiwan