ใครที่เคยแล่นรถผ่านถนนราชพฤกษ์คงต้องเคยเห็น “Villa de Bear” แลนด์มาร์คและ Food Village ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฮอลแลนด์ โดยเฉพาะพี่หมีสีดำตัวใหญ่ที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า จนเราต้องแวะเข้าไปเยือนสักครั้ง
Villa De Bear มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “โรงงานผลิตตุ๊กตาหมี” โดยมีหมีดำอ้วนกลม Villy เป็นเจ้าของโรงงาน พร้อมด้วยแก๊งเพื่อนอีก 4 ตัวมาทำหน้าที่สร้างความสนุกและความสุขให้ลูกค้าที่แวะไปเยี่ยมเยือน Villa De Bear จึงไม่ใช่แค่ Food Village ที่ให้เราแวะไปฝากท้องเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่สร้างความสุขระหว่างเรากับผองเพื่อนและครอบครัว
ความโดดเด่นและชวนสะดุดตาของ Villa De Bear คงเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ฮอลแลนด์ ทำให้เราเสมือนได้พักผ่อนในต่างแดน ส่วนภายในมีบรรยากาศเสมือนบ้านของเล่นด้วยการยกคอนเซ็ปต์โรงงานผลิตตุ๊กตาหมีมาตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ อาทิ โซนตัดเย็บตุ๊กตาที่โดดเด่นด้วยหลอดด้ายจำลองหลากสีขนาดใหญ่, โซนขนส่งลำเลียงที่สะดุดตาด้วยฟันเฟืองไม้ขนาดใหญ่ เป็นต้น เติมความดิบเท่ให้โรงงานผลิตตุ๊กตาแห่งนี้ด้วยผนังปูนเปลือยขัดมัน ขณะเดียวกันก็เจือบรรยากาศอบอุ่นผ่านเฟอร์นิเจอร์ไม้
นอกจากบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลายในดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของ Villa De Bear คือเมนูอาหารที่เสิร์ฟให้เราได้ลิ้มลอง โดยเมื่อไม่นานมานี้ Villa De Bear ยกเครื่องความอร่อยรูปแบบใหม่ด้วย ‘อาหารไทยฟิวชั่น ในรสชาติดั้งเดิม’ หรือเมนูอาหารไทยโมเดิร์น แม้จะยกเครื่องเมนูใหม่ แต่ที่นี่ยังมีเสิร์ฟเมนูตะวันตก ซึ่งคัดเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์เอาไว้ให้เราได้ไปลองอีกด้วย ที่สำคัญทุกเมนูต่างเป็นสูตรเฉพาะที่ครีเอทขึ้นมาสำหรับ Villa De Bear โดยเฉพาะ ทั้งเมนูอาหารคาว เครื่องดื่ม และขนมหวาน
โดยเมนูอาหารไทยโมเดิร์นที่ร้านแนะนำในวันนี้มี แกงคั่ววิลลี่ทะเลรวม ( 250 บาท ) ที่ใช้ผักโขมแทนใบขี้เหล็ก แต่ยังคงรสดั้งเดิมของแกงคั่ว ทั้งรสเข้มข้นของเครื่องแกงและความหวานมันของกะทิ เป็นการผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว ต่อกันด้วยเมนูคุ้นเคย คะน้าปลาเค็มฟู (220 บาท) ที่เสิร์ฟความไม่ธรรมดาด้วยปลาเค็มทอดฟูกรอบ แทนที่ด้วยปลาเค็มชิ้น ผนวกกับความกรอบและสดของคะน้า ทำให้เมนูกลายเป็นเมนูโปรดของเราได้ไม่ยาก
ส่วนใครที่ชอบทานหลนต้องไม่พลาดกับ หลนเนื้อปู (380 บาท ) หลนที่อัดแน่นด้วยเนื้อปูสดๆ เสิร์ฟพร้อมกับผักสดสีสวยหลากชนิด ตามมาด้วย ยำหมูย่างมะเขือเปราะ (180บาท) ยำรสแซ่บแบบไทยๆ ที่หอมสมุนไพรหลายชนิด เข้ากันได้ดีกับหมูย่างนุ่มลิ้น ปิดท้ายกัน รากบัวทอด (140 บาท ) เมนูที่ได้ไอเดียมาจากของกินเล่นสุดฮิตอย่างเฟรนฟราย โดยนำรากบัวไปชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบ จะทานเป็นกับข้าวหรือสั่งมาทานเล่นก็อร่อยลงตัว
ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีหลากหลายให้เลือกดื่มไม่แพ้เมนูอาหาร โดยเฉพาะ Craft Beer ที่มีให้เลือกกว่า 45 แบรนด์ ทั้งไทยและนำเข้าจากเบลเยี่ยม อเมริกา และเยอรมัน เพื่อตอบโจทย์สายจิบเบียร์ นอกจากนี้ Villa De Bear ยังเสิร์ฟค็อกเทลที่โดดเด่นด้วยดีไซน์กับการนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่าง อย่าง Lost In The Forest (310 บาท) ค็อกเทลที่เสิร์ฟในธีมป่า มาพร้อมกับความโดดเด่นของซินนาม่อนที่ความหอมและรสชาติ
ส่วนใครชอบรสหวานต้องไม่พลาดกับ Villy In Love (280 บาท) เป็นค็อกเทลที่นำเสนอความโรแมนติกผ่านดอกกุหลาบสีแดงและน้ำแข็งรูปหัวใจ ให้รสหอมหวานของพีชและสตรอเบอร์รี่ นอกจากอาหารจานหลักอิ่มท้องและเมนูเครื่องดื่มเก๋ไก๋แล้ว Villa De Bear ยังเปิดโซนคาเฟ่ที่เสิร์ฟขนมหวาน โดยแยกส่วนกับโซนร้านอาหารอย่างชัดเจน หรือจะสั่งขนมหวานมาทานพร้อมกับอาหารคาวก็ได้เช่นกัน แอบกระซิบปิดท้ายอีกนิดว่า ขณะนี้ Villa De Bear กำลังเปลี่ยนพื้นที่ว่างข้างๆ เป็น ’ห้องคาราโอเกะ’ ให้เราได้ไปสนุกกับเสียงเพลงเคล้าบรรยากาศยุโรปเร็วๆ นี้
Villa De Bear
• Address: ถนนราชพฤกษ์
• Map: goo.gl/maps/yLu4MuzcT9G2
• Time: เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 17.00 – 24.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ – วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 11.00 – 24.00 น.
• Facebook: www.facebook.com/villadebear/