ความสุนทรีที่แตกต่างในบรรยากาศ Thai – Industrial Loft ณ “Siam Plug In”

ความสุนทรีที่แตกต่างในบรรยากาศ Thai – Industrial Loft ณ  “Siam Plug In” 

EAT & DRINK: “…เริ่มเสียบปลั๊กรู้จักความเป็นไทยที่นี่” จากไอเดียนี้จึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ Thai – Industrial Loft ของคาเฟ่และโฮสเทลในชื่อ ‘Siam Plug In’ พร้อมเสิร์ฟความไม่ธรรมดาของความเป็นไทยที่ผสมกับความเป็นสากลอย่างลงตัว

“สยาม ปลั๊กอิน โฮสเทล มีแนวคิดมาจากการที่เราต้องการให้นักท่องเที่ยวที่มารู้สึกได้ว่า ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการมาเที่ยวเมืองไทย ได้รู้จักการกิน อยู่ ศิลปะ วัฒนธรรม และบ้านเรือนแบบไทยจริงๆ ได้เริ่มเสียบปลั๊กรู้จักความเป็นไทยที่นี่”

คำบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของโฮสเทลและคาเฟ่แห่งใหม่ในย่านเจริญนคร “Siam Plug In” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘Thai – Industrial Loft’ ด้วยการเปลี่ยนอาคารพาณิชย์หลังเก่า 4 ชั้นในย่านเจริญนครให้กลายเป็นโฮสเทลบรรยากาศน่านอน พร้อมกับเปิดสเปซชั้นหนึ่งเป็นคาเฟ่บรรยากาศเท่ๆ เจือกลิ่นอายไทยๆ

ที่เรียกว่า Siam Plug In เพราะว่าเดิมตึกนี้เราทำเป็นลอฟท์มาก่อน แล้วเราเอาความเป็นไทยปลั๊กเข้าไป เหมือนเสียบปลั๊กเข้าไป มันก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘สยามปลั๊กอิน’

Thai – Industrial Loft คือคอนเซ็ปต์ที่ตั้งใจสื่อถึงชุมชนเก่าที่เรารู้จักในชื่อ ‘เจริญนคร’ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของคาเฟ่และโฮสเทลแห่งนี้ โดยดึงเสน่ห์แบบไทยๆ จากงานไม้ไปผสมผสานกับความเสน่ห์ดิบเท่ของอิฐ ปูน และเหล็กในสไตล์ลอฟท์ ทำให้บรรยากาศของที่นี่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน โดยคุณบี – รังสรรค์ ทิพย์โสติกุล เปลี่ยนอาคารพาณิชย์หลังเก่า 4 ชั้นให้โดดเด่นด้วยปูนเปลือยและอิฐมอญโชว์แนวที่เจือกลิ่นอายไทยร่วมสมัยอย่างลงตัว

“เราจึงตั้งใจออกแบบโฮสเทลให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมไทยรัตนโกสินทร์ ผสมความร่วมสมัยแบบอินดัสเตรียลลอฟต์ที่กำลังเป็นที่นิยม เน้นข้าวของเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความเป็นไทย และตั้งใจเสิร์ฟอาหารไทยยอดนิยมให้ลูกค้าได้ประทับใจ”

โดยด้านหน้าของอาคารโดดเด่นด้วยเสาและกำแพงอิฐโชว์แนวที่สั่งทำอิฐมอญไซส์ใหญ่พิเศษและก่ออิฐโดยใช้ปูนน้อยที่สุด เพื่อให้เห็นเสน่ห์ดิบๆ ของอิฐมอญอย่างชัดเจน โดยสีแดงส้มของอิฐตัดกันอย่างลงตัวกับสีเทาของปูนเปลือยที่ฉาบเรียบตลอดแนวอาคาร เติมบรรยากาศไทยๆ ด้วยไม้จริง จนได้คาเฟ่และโฮสเทลเท่ๆ ที่คนแมนๆ ไม่ควรพลาด

• SIAM PLUG IN CAFÉ & BISTRO

“คาเฟ่นี้จริงๆ แล้วมาจากว่า เราตั้งใจให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเช็คอินได้ตลอด 24 ชม. เราก็เลยทำพื้นที่ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่านั้นเอง” แม้ตัวคาเฟ่จะไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่การเปลี่ยน reception ให้เป็นคาเฟ่ก็เสริมให้โฮสเทลแห่งนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น

เริ่มจากการเปิดสเปซชั้นหนึ่งให้เป็นทั้ง Reception และ “คาเฟ่” ที่คอยต้อนรับทั้งนักท่องเที่ยวที่เข้าพักและลูกค้าขาจอนอย่างเรา โดยตกแต่งคาเฟ่ในสไตล์ Thai – Industrial Loft ด้วยการแบ่งพื้นที่ด้านหนึ่งให้โดดเด่นด้วยผนังอิฐมอญโชว์แนวสั่งทำพิเศษ จัดวางเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์วินเทจ ขณะที่ผนังอีกด้านกลับตกแต่งในสไตล์ไทย โดยเลือกไม้เป็นวัสดุหลัก พร้อมกับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไทยวินเทจ จนได้คาเฟ่บรรยากาศลงตัวของเสน่ห์ไทยๆ กับความดิบของสไตล์ลอฟท์

สร้างกลิ่นอายไทยๆ ให้ชัดเจนขึ้นด้วยการออกแบบสเปซหน้าร้านให้เป็นชานบ้านแบบเอาท์ดอร์ พร้อมวางหมอนขิดของไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวและลูกค้าได้เอนตัวรับลม และเมื่อเดินลึกเข้าไปจะพบกับเคาน์เตอร์บาร์ที่ออกแบบอย่างโดดเด่นในรูปลักษณ์เสมือนตู้ยาขนาดใหญ่ โดยภายในซ่อน ‘Craft Beer’ แบรนด์ไทย และ ‘เหล้าขาว’ จากสุโขทัยที่มีฤทธิ์แรงถึง 40 ดีกรีเอาไว้

“การที่เราเปิด 24 ชม บางทีนักท่องเที่ยวอาจจะหิว เราก็ต้องมี all day breakfast เมื่อเขาหิว เขาก็พอมีครัวซองค์ แซนวิชด์ มีพายให้ทาน ซึ่งเราสามารถเสิร์ฟได้ตลอด 24 ชม. แต่เราก็มีอาหารเมนูอื่นๆ ทั้งอาหารไทยกับอาหารตะวันตกเสิร์ฟด้วย

Pad Thai with Shrimp ผัดไทกุ้งสด

โดยเราได้สูตรมาจากเชฟจากร้านอาหารไทยในออสเตรเลีย ดังนั้นอาหารไทยที่นี่มันเลยจะออกเป็นร้านอาหารไทยเมืองนอกมากกว่า มันจะไม่ใช่อาหารไทยจ๋า แต่จะเป็นอาหารไทยที่ฟิวชั่นมาแล้ว หลายๆ คนที่มากินก็จะบอกว่าเหมือนอาหารไทยที่อยู่เมืองนอก รสชาติก็จะอยู่กลางๆ จึงค่อนข้างทานง่ายทั้งลูกค้าที่มาพักและลูกค้าที่มาเที่ยวคาเฟ่”

โดยอาหารไทย ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่แนะนำวันนี้ เริ่มจาก “Pad Thai with Shrimp” (120 บาท) ผัดไทยเส้นจันท์เหนียวนุ่มที่เข้มข้นด้วยซอสและแน่นด้วยเครื่อง เสิร์ฟพร้อมกุ้งสดตัวโตให้เราได้อิ่มอร่อย ส่วนใครที่ชอบทานแกงต้องไม่พลาดกับ “Panang Curry with Beef and Rice” (150 บาท) พะแนงเนื้อน่องลายที่มีทั้งความหวานมันจากกะทิ รสเข้มข้นจากเครื่องแกง และความนุ่มของเนื้อ เมื่อทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จึงกลายเป็นเมนูจานอร่อยที่ลืมไม่ลง

Panang Curry with Beef and Rice แพนงเนื้อน่องลายShrimp Pancake ทอดมันกุ้งค็อกเทลFish & Chips ฟิชแอนด์ชิปส์

ส่วนเมนูอื่นๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้อาหารไทย ไม่ว่าจะเป็น “Shrimp Pancake” (120 บาท) ทอดมันกุ้งค็อกเทลที่ให้รสชาติกุ้งเน้นๆ ซุปเกร็ดขนมปังกรอบๆ เป็นเมนูทานเล่นที่เพลิดเพลิน หรือจะลิ้มลอง “Fish & Chips” (150 บาท) กับความอร่อยของเนื้อปลาที่นำไปหมักด้วยเบียร์สด ก่อนนำไปชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายและสลัดผัก เพิ่มความอร่อยด้วยซอสสูตรพิเศษของร้าน ปิดท้ายเมนูจานหลักด้วยเมนูสุขภาพอย่าง “Salad Rolls” (120 บาท) กับการผสมผสานรสชาติไทยๆ เข้ากับรสชาติฝรั่งอย่างลงตัวของผักและผลไม้สดที่ห่อด้วยแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะญวน เติมรสพิเศษด้วยเสาวรสสดๆ ที่ไม่ปรุงแต่งรสชาติ

Salad Rolls สลัดโรลSiam Espresso สยามเอสเพรสโซ่เย็น

ส่วนเมนูเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้ที่ไหน โดยเราขอแนะนำให้ลิ้มลอง “Siam Espresso” (70 บาท) เอสเพรสโซ่เย็นที่เข้มด้วยรสกาแฟ ขณะเดียวกันก็นุ่มกลมกล่อมด้วยนม กลายเป็นเครื่องดื่มรสเข้มที่ให้สัมผัสละมุนจนอยากแนะนำคอกาแฟให้ลิ้มลอง อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ “Matcha Latte” (90 บาท) ที่ให้รสชาเขียวแบบเข้มข้น ขณะเดียวกันก็ให้รสหวานกำลังดี เป็นชาเขียวลาเต้ที่กลายเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของเราได้ไม่ยาก

• SIAM PLUG IN THE GALLERY HOSTEL

ในส่วนของโฮสเทลก็ตกแต่งได้น่านอนไม่แพ้บรรยากาศน่านั่งของคาเฟ่ โดยคุณบียังคงคอนเซ็ปต์ Thai – Industrial Loft ด้วยการผสมผสานสองสไตล์ให้เป็นหนึ่ง ทั้งการคงความดิบเท่ของสไตล์ลอฟท์ผ่านปูนเปลือยและผนังอิฐมอญโชว์แนว ไม่ลืมเติมความเป็นไทยผ่านบานประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศผ่อนคลายน่านอนด้วยการใช้โทนสีขาวเข้าช่วย

อีกหนึ่งกิมมิกที่ชวนประทับใจคือการนำชื่อ ‘ท่าน้ำ’ มาตั้งเป็นชื่อห้อง พร้อมกับบอกเล่าวิถีริมน้ำผ่านภาพถ่ายใบเก่า ทั้งท่าราชวงศ์, ท่าตากสิน, ท่าเตียน, ท่าช้าง, ท่ามหาราช และท่าพระอาทิตย์ โดยมีทั้งห้องแบบ Private Room และ Dormitory ให้นักท่องเที่ยวเลือกพักผ่อน ไม่เพียงการออกแบบและตกแต่งบรรยากาศให้น่านอนเท่านั้น แต่ Siam Plug In Gallery Hostel ยังใส่ใจเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย โดยออกแบบให้เตียงแต่ละเตียงมีช่องเก็บของที่ล็อกกุญแจได้

ชั้นบนสุดยังออกแบบเป็น Sky Lounge ในบรรยากาศเท่ๆ จากผนังอิฐมอญโชว์แนวที่ก่ออย่างมีลูกเล่น มาพร้อมวิวเมืองที่กว้างสุดสายตาและความเย็นสบายของลมที่พัดผ่านตลอดเวลา ทำให้มุมนี้กลายเป็นมุมพักผ่อนยามเย็นให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับความสุนทรีที่รายล้อมอย่างแท้จริง นอกจากนี้คุณบียังตั้งใจเปิด Sky Lounge เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ให้เรา (ที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเข้าพัก) ได้ไปฉลองวันสำคัญได้อีกด้วย

นอกจากการเป็นโฮสเทลที่เปิดบริการให้เช็คอิน-เช็คเอาท์ตลอด 24 ชม. แล้ว คุณบียังมีแผนจะทำให้ Siam Plug In เป็นมากกว่าโฮสเทลและคาเฟ่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแกลเลอรี่จับต้องได้ พร้อมกับการเป็นไกด์ทัวร์ริมน้ำเจ้าพระยา “เรามีสเปซเหลืออยู่ค่อนข้างเยอะ เราเลยคิดว่าอยากทำแกลเลอรี่แบบจับต้องได้ ซึ่งจะเน้นโชว์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย คือตอนนี้วางธีมเบื้องต้นไว้ว่าจะโชว์สถานที่ท่องเที่ยวตามฤดู เดือนนี้มีอะไรที่ไหนน่าเที่ยว เราก็จะโชว์ภาพสถานที่เที่ยวนั้น เราอยากได้อารมณ์ประมาณว่า นักท่องเที่ยวที่มาพักพอเห็นรูปแล้วเขาอยากไปถ่ายรูปนี้ เขาจะต้องสามารถตามไปถ่ายรูปนี้ได้

ส่วนไอเดียชื่อห้องมาจากว่า ตรงนี้เป็นย่านชุมชนเก่า เมื่อก่อนเขาจะเดินทางด้วยน้ำ แล้วจากตรงนี้สามารถเดินไปท่าเรือได้ แค่ 2 นาทีก็ถึงท่าเรือข้ามฟาก ท่าเป๊ปซี่ ซึ่งก็ข้ามไปท่าเรือสะพานตากสิน ซึ่งก็สามารถเที่ยวได้ทั่วแล้ว จากตรงนี้เราก็เลยเกิดอีกหนึ่งไอเดียว่า เราอยากให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวทางน้ำ

เพราะส่วนใหญ่ทุกคนก็จะโปรโมทที่เที่ยวตามรถไฟฟ้าอยู่แล้ว เพราะมันเดินทางสะดวก หาข้อมูลได้ง่าย แต่เราอยากเน้นการเที่ยวทางเรือให้นักท่องเที่ยวมากกว่า ซึ่งมันเป็นอีกแนวหนึ่ง ตอนนี้เรากำลังทำแผนที่เที่ยวที่เป็นของเราเอง เหมือนเป็นไกด์ไลน์สถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำ จาก Asiatique ไล่ไปถึงพระบรมมหาราชวังเลย”

Siam Plug In The Gallery Hostel & Siam Plug In Cafe & Bistro
• Address: ซอยสาทรแมนชั่น1 ถนนกรุงธนบุรี (BTS กรุงธนบุรี)
• Map: goo.gl/maps/g3X6e6GVt9B2
• Time: โฮสเทล 24 ชั่วโมง และคาเฟ่ เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 22.00 น.
• Tel: 096 969 7456
• Facebook: www.facebook.com/SiamPlugIn

Matcha Latte มัตฉะลาเต้เย็น
Story : Taliw
Photo : Wara Suttiwan
© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.