ท่ามกลางบ้านเรือนในซอยพหลโยธิน 18/3 ใครจะคิดว่าจะมีคาเฟ่ไซส์มินิที่บรรยากาศและเมนูอาหารไม่ธรรมดาซ่อนตัวอยู่ แต่ก่อนที่เราจะพาคุณไปสำรวจความเท่ พร้อมชิมความอร่อยของเมนูซิกเนเจอร์ เราขอพาคุณไปเจาะลึกถึงความสนุกของคุณน้ำ – อมิชชาปตีร์ ปุณวรพิพัฒน์ ที่ได้สร้างสรรค์ FLOCK dessert bar & bistro แห่งขึ้นมา
“เดิมน้ำมีร้าน Pub & Restaurant อยู่แล้วแต่ไม่มีขนม ลูกค้าก็ถามถึงขนม เราก็เลยคิดว่าจะทำยังไงดีที่จะตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งข้างในก็ไม่มีที่ว่างให้วางตู้เค้กแล้ว ทุกอย่างเต็มแน่นไปหมด แล้วพอดีมีพื้นที่ตรงนี้ซึ่งมันเป็นที่รกร้าง เป็นที่ทิ้งขยะ ใช้อะไรไม่ได้เลยนอกจากต้นไม้ขึ้นรก เราก็เลยเกิดความคิดว่าเราควรทำอะไรสักอย่างกับมันดีกว่า ให้มันเกิดประโยชน์ขึ้นมา
อีกอย่างน้ำเป็นคนชอบเที่ยวคาเฟ่ตามต่างประเทศด้วย แล้วเราจะเก็บรายละเอียดของแต่ละที่ พอได้ทำร้านขนมก็เลยเหมือนตอบสนองความต้องการในการแต่งร้านของตัวเอง ซึ่งแต่ก่อนเราได้แต่เก็บภาพของที่อื่น เราอยากเอาทุกอย่างที่เราชอบมารวมอยู่ที่นี่ เพราะในหัวเรามีแต่ความชอบร้านนั้นร้านนี้ เราก็อยากเอามาประกอบกันให้มันเป็นร้านของเรา”
และจากความสนุกที่ได้ออกแบบร้านและแต่งร้านด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการได้นำสิ่งที่ชอบมารวมกัน ทั้งงานอิฐ งานไม้ และเหล็ก ทำให้คาเฟ่แห่งนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า ‘อินดัสเทรียลลอฟต์’ ด้วยการแต่งร้านดิบๆ ทั้งการใช้ผนังปูนเปลือย โครงเหล็กเท่ๆ และเฟอร์นิเจอร์ไม้เก๋าๆ ผนวกกับของสะสมแสนเก๋ที่เสมือนยกบ้านมาไว้ที่นี่ ทำให้คาเฟ่ที่มีพื้นที่จำกัดแห่งนี้กลายเป็นคาเฟ่เท่ๆ สไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์อย่างลงตัว ภายในร้านยังกั้นกระจกใสล้อมต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีอยู่เดิมก่อนที่คุณน้ำจะทำการปรับปรุงพื้นที่ จึงช่วยลดความดิบของร้านลง ขณะเดียวกันก็เสริมให้ร้านมีบรรยากาศสดชื่น
แม้ว่าพื้นที่จะมีจำกัด ทั้งยังแบ่งพื้นที่ให้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาที่จะออกแบบร้านให้ครบครัน ทั้งเสิร์ฟอาหารคาวและขนมหวานภายในพื้นที่เพียง 3 x 6 เมตร “เรื่องพื้นที่ไม่เป็นปัญหา เพราะจริงๆ แล้วน้ำก็ชอบร้านที่ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่นร้านเล็กกว่านี้อีก แต่ว่าทำได้ทุกอย่าง ใจก็คิดอย่างนั้นว่าเรามีพื้นที่แค่นี้แหละ 3×6 เมตร เราต้องทำให้ได้สิ เขายังทำได้ทุกอย่าง เราทำแค่ขนมเอง”
และเมื่อเราชวนคุยเรื่องเมนูของร้าน คุณน้ำก็บอกกับเราว่า “มันเริ่มจากเจ้าของร้านทำขนมไม่เป็นเลย แต่ว่าอยากทำ รู้สึกว่าเราทำอย่างอื่นได้ดีแล้ว อันนี้มันก็ไม่ได้ยากไปกว่าอย่างอื่นเท่าไร มันคงต้องทำได้ ก็ทำเลยฝึกทำขนมช่วงที่ทำร้านสองเดือน”
ซึ่งสองเดือนนี้ก็ได้หลายเมนู มากกว่า 10 เมนู แต่ว่าน้ำคัดมา ไม่ได้เอามาทั้งหมด เมนูของที่นี่ก็เลยเหมือนสไตล์ตัวเองนิดหน่อย อย่างขนม มันก็จะไม่ได้มีประจำ เหมือนวันนี้อยากทำอะไรก็ทำ ลูกค้ามาจะได้กินอะไรก็ไม่แน่ใจ วันไหนเห็นว่ามีวัตถุดิบอะไรดี มีผลไม้อะไรที่สดใหม่ก็ทำอันนั้น เช่นเดียวกันกับอาหาร อาหารของที่นี่แต่ละเมนูก็ไม่ซ้ำกัน ซึ่งแต่ละวันจะมี 5 เมนูเปลี่ยนๆ กันไปและเปลี่ยนทุกวัน แต่ว่าน้ำก็วางแพลนไว้นะคะ วันนี้จะเสิร์ฟอะไรก็จะอัพเดตอยู่เรื่อยๆ ในอินสตราแกรมและเฟซบุ๊ก”
และด้วยระยะเวลา 2 เดือนในการเปลี่ยนพื้นที่ว่างให้กลายเป็นคาเฟ่เท่ๆ ก็คือช่วงเวลาที่คุณน้ำได้สนุกกับการครีเอทรสชาติใหม่ๆ แบบไม่ซ้ำใครและเป็นเมนูที่หาทานที่อื่นไม่ได้ ทั้งอาหารคาวและขนมหวาน เริ่มจาก “ผักบุ้งผัดกะปิ” เมนูผัดผักบุ้งที่คุ้นเคย แต่รสชาติไม่คุ้นเคยแน่นอน เมื่อคุณน้ำเพิ่มความอร่อยให้เมนูนี้ด้วย ‘กะปิ’ คุณภาพดีที่ส่งตรงจากใต้ กลายเป็นเมนูผักบุ้งผัดกะปิรสอร่อยจนต้องยกนิ้วให้
ต่อกันด้วยกากหมูกรอบๆ ที่หอมสมุนไพรและรสชาติที่เค็มนิดๆ อย่าง “กากหมูคั่ว Flock” ซึ่งเมนูคุณน้ำเล่าว่า “โดยปกติแล้วถ้าเอากากหมูมากินกับพวกกะปิ ก็เป็นกากหมูทั่วไป เป็นกากหมูเปล่าๆ แต่กากหมูคั่ว Flock คือกากหมูที่เอาไปคั่วกับสมุนไพร อย่างใบมะกรูด ตะไคร้ แล้วก็ปรุงรสหน่อยให้สามารถกินเดี่ยวได้ ทานเล่นได้เลย หรือทานกับข้าวก็ได้”
อีกเมนูซิกเนเจอร์ที่มีชื่อชวนสงสัย “ข้าวแมว” ซึ่งเป็นข้าวคลุกปลาทู เสิร์ฟพร้อมปลาทูเป็นตัวๆ และผักเป็นเครื่องเคียง โดยคุณน้ำเล่าให้ฟังถึงที่มาของเมนูและชื่อเมนูที่แสนแปลกนี้ว่า “อันนี้ชอบส่วนตัว แล้วก็เรียกเอง สมัยก่อนคนชอบคิดกันว่าแมวชอบปลาทู ก็เลยเอาข้าวไปคลุกปลาทู เราก็เรียกว่าข้าวแมว”
ส่วนเมนูขนมหวานนั้น FLOCK dessert bar & bistro เลือกเสิร์ฟขนมโฮมเมดสูตรเฉพาะของคุณน้ำอีกเช่นกัน โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์อย่าง “Flock You” วาฟเฟิลแผ่นบางที่กรอบนอกแต่นุ่มใน เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมที่มีหลากรสให้เลือก ราดด้วยซอสคาราเมลหอมหวาน ซึ่งคาราเมลนี้คุณน้ำก็เคี่ยวเอง
ความพิเศษของขนมหวานเมนูนี้ คุณน้ำเล่าว่า “เรารู้สึกว่าเราเปิดร้านข้าวคู่กับขนม ดังนั้นวาฟเฟิลไม่ควรจะอิ่มมากหลังจากที่กินข้าว เราก็เลยทำให้เล็กลง กรอบขึ้น นุ่มข้างในนิดนึง พวกซอสคาราเมล เราคิดว่าซื้อสำเร็จรูปมันก็อร่อยนะแต่ไม่หอม ก็เลยทำเองดีกว่า ใช้ช็อกโกแลตดีหน่อย เคี่ยวน้ำตาลเอง รู้สึกว่ามันโฮมเมดจริงๆ แล้วก็ได้รสอย่างที่ต้องการ”
นอกจากอาหารคาวจานหลักและของหวานที่อร่อยจนต้องยกนิ้วให้แล้ว เมนูเครื่องดื่มของที่นี่ก็เจ๋งและอร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น “Fifty Shade of Earl” เครื่องดื่มที่โดดเด่นด้วยวุ้นเอิร์ลเกรย์ที่คุณน้ำนำชาเอิร์ลเกรย์ไปผสมในเจลาติน โดยเสิร์ฟในน้ำ ‘ชา’ รสชาติเฉพาะที่คุณน้ำเบลนขึ้นมาเอง ทำให้เมนูนี้กลายเป็นเครื่องดื่มแก้วสนุกที่ห้ามไม่พลาด
ส่วนคอกาแฟที่อยากลิ้มลองกาแฟรสชาติใหม่ ต้องไม่พลาดกับ “Espresso Tonic” กาแฟดริปเข้มข้นที่นำไปผสมผสานกับโทนิกจนได้กาแฟที่ให้อารมณ์สดชื่นทันทีที่ดื่ม โดยเมล็ดกาแฟที่เลือกใช้นั้น คุณน้ำนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น โดยเลือกเมล็ดกาแฟจากร้านดังหลายๆ ร้านในโตเกียว
ปิดท้ายกันด้วยความลับของชื่อร้านที่คุณน้ำกระซิบบอกกับเราว่า “ชื่อเต็มๆ ของร้านนี้คือ Bird of Feather Flock Together ซึ่งเป็นชื่อเต็มๆ ที่มีมาตั้งแต่แรก แต่ต้องเล่าถึงร้านข้างๆ ก่อน ซึ่งชื่อเต็มๆ คือ Six Degrees of Separation ซึ่งมันเป็นทฤษฎีที่เกี่ยวกับเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันต่อไปอีก 6 คน มันเป็นทฤษฎีของคนอเมริกันว่า เราจะมีความเชื่อมโยงกันอยู่ 6 ช่วงคนในการรู้จักกัน เหมือนมาร้านนี้ มานั่งคุยกัน คุยไปคุยมาก็ เฮ้ย! คนนี้ฉันก็รู้จัก ซึ่งอันนี้คือ Six Degrees of Separation
เราก็เลยคิดว่า เราตั้งร้านนี้ใกล้กับร้าน Six Degrees of Separation เราก็เลยอยากให้มันเชื่อมโยงกัน ก็เลยไปหาว่ามีอะไรที่เราชอบบ้าง ก็ไปเจอ Bird of Feather Flock Together มันเหมือนกับว่าใครชอบอะไรเหมือนกันก็จะมารวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน ก็เลยคิดว่าเราทำร้านนี้ขึ้นมา เราชอบแบบนี้ เช่นเดียวกันกับคนที่ผ่านไปมา ชอบขนมหรือชอบสไตล์นี้เหมือนเรา เขาก็อยากเข้ามาหาเรา มาดูมาชมในสิ่งที่เราชอบ”
Address : พหลโยธิน 18/3 หรือวิภาวดีรังสิต 5 แยก 7
GPS : 13.7984465,100.5566253
Time : เปิดเวลา 11.00 – 22.00 น. โดยจะเสิร์ฟอาหารถึง 15.00 น. หยุดวันอาทิตย์
Tel. : 081 354 0069
Facebook : www.facebook.com/FLOCKDESSERTBAR
Instagram : www.instagram.com/flock.bangkok