CHUNKY เสิร์ฟความอร่อยแบบเต็มคำกับครีเอทเบอร์เกอร์หลากเมนู

“…คือร้านนี้มาจากความตั้งใจที่อยากจะทำอาหารในแนวของตัวเอง โดยไม่มีใครมาบังคับและกะเกณฑ์” นี่คือจุดเริ่มต้นของคาเฟ่สีขาวสะอาดตาที่ซุกตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 กับความตั้งใจของเชฟเบลที่อยากปั้นแต่งคาเฟ่แห่งนี้ในสไตล์ของตัวเอง จนเกิดเป็น “CHUNKY” คาเฟ่ที่โดดเด่นทั้งบรรยากาศร้านและอาหารที่เสิร์ฟ จนเราอดใจไม่ไหวต้องชวนคุณผู้อ่านไปเยือนสักครั้ง

“ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นโฮมเมด ทุกอย่างเราทำเองทั้งหมด แตงกวาดองเราดองเอง เนื้อเราก็ปั้นเอง เพราะเราไม่ใช้เนื้อแช่แข็ง ขนมปังเราก็บันเอง เราปลูกโรสแมรี่เพื่อเอามาใช้เอง อะไรที่เราทำเองได้ ไม่ต้องรับของใคร เราก็ทำเองทั้งหมด มันก็เลยกลายเป็นโฮมเมด เราไม่ได้ใช้คำว่าโฮมเมดเพราะหน้าตาโฮมเมด แต่เราใช้คำว่าโฮมเมดเพราะเราทำโฮมเมด”

และนี่คือคำนิยามของคาเฟ่แห่งนี้ ซึ่งทำให้ Chunky เป็นมากกว่าคาเฟ่บรรยากาศดีที่เสิร์ฟอาหารอร่อย เพราะทุกรายละเอียดที่เชฟเบลได้แจกแจงให้เราได้ฟังนั้นเต็มไปด้วยความใส่ใจอย่างแท้จริง จึงไม่แปลกหากคาเฟ่เปิดใหม่แห่งนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์คที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติในย่านสุขุมวิท

แม้คาเฟ่แห่งนี้จะเน้นเสิร์ฟ “เบอร์เกอร์” เป็นเมนูหลัก แต่เบอร์เกอร์ของ Chunky เป็นเบอร์เกอร์ที่รับรองว่าไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นการทำขนมปังบันสูตรเฉพาะของร้าน ที่เมื่อตกบ่ายของทุกวัน คุณจะเห็นเชฟยืนนวดแป้งทำขนมปังอยู่หน้าเคาน์เตอร์ แน่นอนว่าเชฟยังใจดีให้คุณได้สอบถามสูตรได้อีกด้วย และความพิเศษอีกอย่างของที่นี่คือความครีเอทของเชฟเบลที่มีต่ออาหาร โดยมีคำว่า ‘เบอร์เกอร์’ เป็นเสมือนเมนูพื้นฐานของร้าน ดังนั้นร้านนี้จึงเสิร์ฟ ‘เบอร์เกอร์ที่เป็นมากกว่าเบอร์เกอร์’ ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า “More than just a BURGER”

“จริงๆ แล้วไม่ได้เน้นเบอร์เกอร์ แต่มันเป็น More than just a burger เป็นคอนเซ็ปต์ที่เป็นอะไรมากกว่าเบอร์เกอร์ มันเป็นการเอาหลายคอนเซ็ปต์มาขมวดกัน คำว่า Chunky แปลว่าเต็มปากเต็มคำ แปลว่าชิ้นใหญ่ๆ ก้อนใหญ่ๆ ทีนี้ More than just a burger เราล้อกับคำว่าโฮมเมด หมายความว่ามันไม่ใช่เบอร์เกอร์ที่เราจะไปกินที่แมคโดนัลด์ ไม่ใช่เบอร์เกอร์ที่คุณไปกินที่เบอร์เกอร์คิง ไม่ใช่เบอร์เกอร์ที่ถูกแช่แข็งมา แต่มันเป็นเบอร์เกอร์ที่มีความรู้สึกอยู่ข้างใน

อีกอย่าง More than just a burger คือเราเอาความเป็นเบอร์เกอร์มาทำให้เป็นเมนูอย่างอื่น มาทำให้เป็น Bunch อย่าง Holy Cheese Burger เราก็ครีเอทมาจาก croque monsieur ซึ่งเป็นเมนูบรันช์ (Brunch) ของฝรั่งเศส เดิมเขาจะใช้บาแกตต์ (baguette) แต่ของเราจะใช้ขนมปังที่เราบัน (bun) ขึ้นเอง เมนูนี้จึงเป็นเบอร์เกอร์ที่ดูเป็นบรันช์ เป็น More than just a burger ในแบบของเราเอง

“…More than just a BURGER เป็นเบอร์เกอร์ที่ใช้มือจับกินไม่ได้แล้ว แต่เป็นเบอร์เกอร์ที่ต้องใช้ส้อมกับมีดกิน”

Holy Cheese Burger (295 บาท)

แล้วเราก็ล้อกับคำว่า Chunky ซึ่งแปลว่าเต็มปากเต็มคำ แปลว่าโฮมเมด เราก็เลยอยากจะให้ลูกค้าที่เข้ามารู้สึกว่า เราให้แบบไม่หวง แปลว่าเราให้แบบเต็มปากเต็มคำ ชิ้นใหญ่จริงๆ หนึ่งจานกินแล้วจุกไปถึงตอนเย็น เพราะมันใหญ่มาก แล้วความใหญ่ของอาหาร มันก็เหมือนกับสิ่งที่แม่ทำให้ลูกกิน มันเป็นคอนเซ็ปต์ของความอบอุ่น เพราะเราอยากให้เข้ามาในร้านแล้วรู้สึกอบอุ่น ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน ให้ความรู้สึกว่าคุณมากินอาหารที่บ้าน

อีกอย่างหนึ่งคือรสชาติเราเป็น authentic หมายความว่ามันเป็นรสชาติที่ฝรั่งกินที่บ้านเขา แต่เขาหาในเมืองไทยไม่ได้ ร้านนี้จึงเน้นฝรั่ง 80% ซึ่งแสดงว่าร้านเรามีความเป็นออริจินอลอยู่ข้างใน เป็นออริจินอลแแบบคุณแม่ทำให้อยู่ที่บ้าน แต่ด้วยความที่ลูกค้าคนไทยน้อย เราก็เลยจะเพิ่มเมนูอื่นๆ ที่ถูกปากคนไทยมากขึ้น”

Sliced Beef Burger (310 บาท)

โดยเมนูที่เชฟเบลแนะนำให้เราได้ลิ้มลองนั้น เริ่มจาก Sliced Beef Burger (310 บาท) ครีเอทเบอร์เกอร์ที่ประกอบไปด้วยขนมปังสูตรเฉพาะที่มีความกรอบนอกแต่นุ่มลิ้น ส่วนเนื้อที่เลือกมาเสิร์ฟ ทางร้านเลือกใช้เนื้อสันนอกที่นำเข้าจากนิวซีแลนด์ พร้อมทั้งใช้วิธีการ ‘ซูวี’ ทำให้เนื้อสุกอย่างทั่วถึง เนื้อที่ได้จึงนุ่มและไม่เสียรสชาติของความเป็นเนื้อไป

เพิ่มความฟินด้วยการนำเนื้อมาสไลด์เป็นชิ้นแทนการบดและปั้นเป็นก้อนอย่างที่เราคุ้นเคย ทำให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยของเนื้อแบบเต็มๆ เสมือนทานสเต็กเนื้อในรูปแบบของเบอร์เกอร์ จึงไม่แปลกหากเมนูนี้จะเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของคนรักเนื้อ นอกจากนี้เชฟยังเพิ่มความอร่อยด้วย Brown Sauce ซอสกระดูกวัวที่ใช้เวลาเคียวมากกว่า 48 ชั่วโมงอีกด้วย

Capellini With Bisque Sauce and Battered Prawn (285 บาท)

ต่อกันด้วยการเอาใจคนรักซีสกับเมนู Holy Cheese Burger (295 บาท) เมนูนี้เสมือนเป็น croque monsieur ซึ่งเป็นเมนูบรันช์ของฝรั่งเศส โดยเป็นเบอร์เกอร์แฮมกับไข่ดาว มีความพิเศษอยู่ที่ซีสเยิ่มๆ ที่เมื่อเราตัดก็จะมีความเยิ่มของไข่แดงกับซีสยืดๆ ชวนน้ำลายไหล เสิร์ฟพร้อมกับสลัดกองโตๆ ตัดเลี่ยนด้วยแตงกวาดองที่ทางร้านดองเอง

และเมนูสุดท้าย เป็นเมนูเส้นสำหรับคนรักอาหารทะเล โดยเฉพาะ ‘กุ้ง’ กับเมนู Capellini With Bisque Sauce and Battered Prawn (285 บาท) ซึ่งความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ Bisque Sauce ซึ่งเชฟเบลใช้เวลาคิดค้นความอร่อยกว่า 2 ปี และยังเป็นซอสที่นำไปแข่งและชนะมาอีกด้วย ซึ่ง Bisque Sauce นี้ต้องใช้เวลาเคี่ยวถึง 72 ชั่วโมง ด้วยการใช้กุ้งจำนวนมากมาค่อยๆ เคี่ยวจากน้ำ 16 ลิตรจนได้น้ำซอสที่ใช้ได้จริงเพียง 3 ลิตร จึงไม่แปลกหากเมนูนี้จะมีความอร่อยอยู่ที่ความเข้มข้นของกุ้ง โดยเสิร์ฟพร้อมกุ้งแช่บ๊วยทอดกรอบตัวโต

“…การไปคาเฟ่มันเป็นการทิ้งอารมณ์ เราเลยอยากให้คนอื่นมาทิ้งอารมณ์ในร้านเราบ้าง”

ส่วนการตกแต่งภายในร้าน โดดเด่นด้วยสีขาวกับความโล่งโปร่งสบายตา ทำให้ร้านนี้มีบรรยากาศเป็นกันเองเสมือนอยู่บ้าน โดยรีโนเวทจากโชว์รูมเก่าจึงยังคงโครงสร้างบางส่วนเอาไว้ อย่างพื้นที่ชั้นลอยของร้านซึ่งกลายเป็นจุดดึงดูดสายตาทันทีที่เปิดประตู แน่นอนว่าด้วยความต้องการให้ร้านเป็น ‘โฮมเมด’ อย่างแท้จริง ผนวกกับความชื่นชอบในการไปเยือนคาเฟ่ เชฟเบลจึงตกแต่งร้านนี้ด้วยตัวเอง ทั้งการออกแบบ การสรรหาเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ตลอดจนการสเก็ตภาพเบอร์เกอร์ชิ้นโตแล้วให้เพื่อนมาช่วยเพ้นท์อย่างที่เห็นบนผนังร้าน

“เราเป็นคนเดินคาเฟ่บ่อย เราเป็นสายฮิปสเตอร์ เราชอบการตกแต่ง เราชอบนั่งสบายๆ ในคาเฟ่ ไปเชียงใหม่เราก็ไปคาเฟ่ ไปฮ่องกงเราก็ไปคาเฟ่ ซึ่งการไปคาเฟ่มันเป็นการทิ้งอารมณ์ เราเลยอยากให้คนอื่นมาทิ้งอารมณ์ในร้านเราบ้าง”

“คาเฟ่บางที่เขาไม่ได้โฟกัสอาหาร เขาโฟกัสเครื่องดื่ม เขาโฟกัสความชิค เราก็เลยเลือกอาหารที่เราเป็นอยู่แล้วมาโฟกัสด้วย ทำให้มันน่าสนใจ ไม่ใช่มานั่งชิคๆ แต่อาหารกินไม่ได้หรืออาหารเข้าใจยาก แต่ต้องสมดุลกัน ส่วนการแต่งร้านบอกตามตรงว่าไม่รู้เขาเรียกว่าสไตล์อะไร เพราะมันมาจากความมั่วของเรา อยากได้หญ้าก็เอาหญ้ามาใส่ อยากได้กำแพงสีขาวก็เอากำแพงสีขาวมาใส่ อยากได้อิฐก็เอาอิฐมาใส่ อย่างรูปเบอร์เกอร์ใหญ่ๆ นั้นเบลก็วาดมือ แล้วก็ส่งแบบให้เพื่อนที่เป็นช่างเพ้นท์มาเพ้นท์ให้ เหมือนเราเป็นอาร์ทติส แต่เราเป็นอาร์ทติสด้านอาหารที่มีหัวด้านนี้ด้วย”

 

Address : ซอยสุขุมวิท 23
GPS : 13.7380859,100.562645
Time : อังคาร – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น.
Tel : 087 508 2312
Facebook : www.facebook.com/Chunkys23
Instagram : www.instagram.com/chunkys23

Story : Taliw
Photo : Wara Suttiwan
© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.