ใครจะคาดคิดว่าอาคารพาณิชย์ธรรมดาๆ ที่ซุกตัวอยู่ในซอยทองหล่อ 14 จะกลายเป็นสถานที่ที่ให้เราได้หลบหลีกความวุ่นวายของรถราท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด คาเฟ่เงียบสงบซึ่งโอบล้อมด้วยสีขาวและความเรียบง่ายชวนให้เราพักผ่อนหย่อนใจอย่างเพลิดเพลินแห่งนี้มีชื่อว่า Wie Immer (วี อิมเมอร์)
จากตึกแถวซึ่งเป็นที่พักอาศัยในวัยเยาว์ วันนี้ได้รับการรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็น Home Office สำหรับรังสรรค์งานดีไซน์ของ คุณหง – วิรัลพัชร นารานิติธรรศ แต่ความโดดเด่นที่เชิญชวนให้เราไปเยือนสถานที่แห่งนี้กลับเป็นการเนรมิตพื้นที่ชั้นล่างของบ้านให้กลายเป็น ‘คาเฟ่สีขาวไซส์มินิที่เต็มไปด้วยความสงบท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่าย’ ภายใต้ชื่อร้านที่แฝงความหมายไว้ว่า “เช่นเคย”
“ชื่อร้าน wie immer เป็นภาษาเยอรมัน แปลเป็นภาษาไทยว่าเช่นเคย คือจริงๆ แล้วความหมายมันมาจากการที่บ้านเราอยู่ตรงนี้ เราเกิดตรงนี้ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก แล้ววันนี้เราก็ยังอยู่ที่นี่เหมือนเดิม เหมือนเคย แล้วหงก็คิดไปไกลถึงเรื่องเสิร์ฟอาหาร ซึ่งเป็นเมนูเดิมๆ ที่มาทานประจำ เวลาสั่งก็เหมือนกับเหมือนเดิมค่ะ เช่นเคยค่ะ”
“…ในการทำงานสถาปัตยกรรมคือการที่เราดูบริบทของเราด้วย ทีนี้มันก็เลยเข้ามากกว่าที่บ้านเราจะเป็นสถาปัตยกรรมมินิมอลโมเดิร์น ออกไปทางตะวันตกนิดนึง ไม่ได้หนักไปทางตะวันออก”
ทันทีที่เปิดประตูจะพบกับพื้นที่คาเฟ่ซึ่งเนรมิตจากพื้นที่ชั้นล่างส่วนหน้าของอาคารพาณิชย์ จึงไม่แปลกหาก Wie Immer จะเป็นเพียงคาเฟ่ไซส์เล็ก แต่ด้วยการออกแบบของคุณหงทั้งการเลือกใช้สีขาวที่ชวนให้พื้นที่ดูกว้างและสะอาดตา ผนวกกับการเลือกติดหลังคากระจกจากชั้นสามสู่ชั้นล่างเสมือน Glass House ทำให้คาเฟ่แห่งนี้สว่างไสวจากแสงธรรมชาติ และยังทำให้ Home Office ซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้านกลายเป็นพื้นที่ทำงานในฝันของใครหลายคนอีกด้วย
นอกจากนี้การติดหลังคากระจกยังช่วยให้เราได้ชมภาพศิลปะจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใสและปุยเมฆสีขาว ผสมผสานกับการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายแต่เก๋ไก๋ตามแบบฉบับมินิมอลสไตล์ โดยเฉพาะเมื่อเติมความสดชื่นด้วยบรรดาต้นไม้ในกระถาง จึงไม่แปลกหากคาเฟ่แห่งนี้จะชวนให้เราคิดถึงกระท่อมน้อยสีขาวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
“ที่จริงบ้านหลังนี้อยู่สบายนะ เพราะว่าผนังด้านข้างเราติดกับบ้านหลังข้างๆ เลยไม่ร้อน ดังนั้นชั้นหนึ่งจะเย็นมาก แต่ชั้นหนึ่งจะมีปัญหาเรื่องไม่เคยได้แสงเลย หงเลยคิดหาวิธีให้การอยู่อาศัยมันโอเคขึ้น หงเลยติดหลังคากระจกอย่างที่เห็น”
ไม่เพียงการออกแบบที่คุณหงดีไซน์ด้วยตัวเอง เมนูขนมและเครื่องดื่มของที่นี่คุณหงก็คิดและเสิร์ฟเองอีกด้วย โดยเมนูขนมและเครื่องดื่มรวมทั้งการตกแต่งร้าน คุณหงวางคอนเซ็ปต์เอาไว้ว่า “ร้านกาแฟเหมือนเปิดขึ้นมาในบ้านเรา หงเลยไม่ได้อยากให้มันเป็น trendy แต่หงอยากให้ทุกคนเหมือนมาบ้านเพื่อน เหมือนแวะมาดูงานศิลปะ มากินขนม มานั่งเล่นนั่งคุย เสียงดังเอะอะได้มากกว่า”
“…ช่วงนี้เทรนด์ของการทานอาหารจะจัดจานสวยๆ แต่หงกลับคิดว่ารสชาติสำคัญที่สุด อาหารของที่นี่อาจจะมีหน้าตาเป็นก้อนๆ แต่กินเข้าไปคำแรกแล้วอร่อย หงอยากให้เป็นแบบนั้นมากกว่า”
จากคอนเซ็ปต์ “เหมือนแวะมาบ้านเพื่อน” นี้เอง ทำให้ Wie Immer แห่งนี้เสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมที่เราคุ้นเคย ผสมผสานกับความคิดที่อยากเสิร์ฟ ‘ขนมฝรั่งคู่กับขนมไทย’ ทำให้ที่ร้านมีทั้ง “ขนมต้ม” เป็นตัวแทนของขนมไทยที่คุณหงภูมิใจนำเสนอ และยังมีขนมฝรั่งอย่างสโคนอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มก็มีตั้งแต่ชาและกาแฟทั้งร้อนและเย็น รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทสมูทตี้หลากรสให้เลือกชิม
เริ่มจาก Caramel Macchiato (hot 80 บาท) ที่เสิร์ฟมาในแก้วลายครามอย่างมีเอกลักษณ์ โดยคุณหงเลือก Cranberry Oatmeal Cookies (2 ชิ้น 75 บาท) มาให้เราลิ้มลองควบคู่กัน แต่หากใครไม่ชื่นชอบการดื่มกาแฟร้อน ที่นี่ยังมี เซ็ตชา (60 บาท) ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นมาเสิร์ฟให้เราได้นั่งจิบระหว่างสนทนากับแก๊งเพื่อนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Earl Dray, Peppermint, Oolong ฯลฯ ส่วนใครที่ชอบเครื่องดื่มประเภทสมูทตี้ต้องไม่พลาดกับ Cookies and Cream Smoothies (95 บาท)
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ เป็นทางเลือกให้เราได้ลิ้มลอง อาทิ เครื่องดื่มประเภทโซดาอย่าง Peach Soda, Strawberry Soda รวมทั้งยังมีเครื่องดื่มประเภทชาเขียวและช็อกโกแลต เช่น Matcha Latte, Hot Chocolate, Steam Milk ฯลฯ ส่วนอาหารจานหนักๆ ต้องลิ้มลอง Egg Salad Waffle (125 บาท) วาฟเฟิลกรอบนอกที่ภายในอัดแน่นด้วยเมนูไข่ทานคู่กับสลัดผัดสดที่เสิร์ฟมาคู่กัน เป็นเมนูอาหารเบาๆ ที่ชวนให้อิ่มท้อง ส่วนเมนูขนมอื่นๆ ก็มี Banana Bundt Cake, Scone (Cream & Jam), Cheese Tart เป็นต้น
“ขนมไทยตอนนี้มีขนมต้มอย่างเดียว แต่ว่ากำลังจะขยับขยาย อย่างตอนนี้เรามี banana bundt cake แล้วเดี๋ยวก็จะมีเมนูอื่นๆ อย่างเค้กที่มีส่วนผสมของผลไม้ไทย ช่วงนี้เทรนด์ของการทานอาหารจะจัดจานสวยๆ แต่หงกลับคิดว่ารสชาติสำคัญที่สุด อาหารของที่นี่อาจจะมีหน้าตาเป็นก้อนๆ แต่กินเข้าไปคำแรกแล้วอร่อย หงอยากให้เป็นแบบนั้นมากกว่า”
นอกจาการตกแต่งและเมนูอาหารที่มีแนวคิดไม่ซ้ำใครแล้ว คุณหงยังเปิดพื้นที่ชั้นล่างเป็นแกลอรี่สำหรับแสดงงานศิลปะและจัดเวิร์คช็อปอีกด้วย โดยพื้นที่หลังคาเฟ่ที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่หลังบ้านนั้น แท้จริงแล้วกลับซุกซ่อนห้องโถงขนาดกลางเอาไว้ ซึ่งห้องโถงนี้เองที่คุณหงจะจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับศิลปินได้มาวางผลงานศิลปะให้เราได้ชม
“หงตั้งใจจะทำให้เป็นอาคารสาธารณะ เลยวางแผนเอาไว้ว่าด้านล่างจะเป็นแกลอรี่ที่มีงานศิลปะหมุนเวียนกันมา เป็นเหมือนแกลอรี่ทั่วๆ ไปที่มีงานหมุนเวียน เราไม่ได้คิดค่าวางหรืออะไรเลย ถ้าเกิดว่ามันเป็นงานที่ต้องรักษา เราก็จะดูแลให้ด้วย
หงคิดว่าคนที่เขาเป็นศิลปินตัวเล็กที่เขายังไม่มีชื่อเสียง บางทีการที่เขาจะเข้าไปในหอศิลป์ใหญ่ๆ ก็เป็นไปได้ยาก บางทีคนมีชิ้นงาน แต่ว่ามีชิ้นงานน้อย ไม่ได้มีเยอะพอที่จะไปจัดนิทรรศการเป็นของตัวเองยิ่งใหญ่ ก็มาจัดที่นี่ก็ได้ เพื่อให้คนที่สนใจจริงๆ เข้ามาดู”
Address : ซอยทองหล่อ 14 ถนนสุขุมวิท 55
GPS : 13.733372,100.58302
Time : จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 18.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 19.30 น.
Facebook : www.facebook.com/Wieimmerbangkok
Instagram : www.instagram.com/wieimmerbangkok
E-Mail : wieimmercafe@gmail.com