ท่ามกลางซอยเล็กซอยน้อยในย่านท่าเตียนยังมีร้านคาเฟ่ไซส์มินิซุกซ่อนอยู่ แม้จะเป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในซอยลึก แต่กลับเป็นร้านน่าสบายที่มีลูกค้าเข้าออกไม่ขาดสาย อาจเป็นเพราะการแต่งร้านที่แสนจะดูดีและเก๋ไก๋ ผนวกกับการเสิร์ฟเมนู “มะม่วง” ผลไม้ไทยที่ทุกคนต่างชื่นชอบทั้งชาวไทยและต่างชาติ จึงไม่แปลกหากใครๆ ก็อยากจะมาเยือนร้านนี้ดูสักครั้ง เช่นเดียวกับเราที่ต้องชวนคุณผู้อ่านไปเยือน “Make Me Mango” – คาเฟ่มะม่วงแห่งนี้กัน!
จากความฝันในวัยเยาว์ที่ตั้งมั่นว่าต้องมีร้านคาเฟ่เป็นของตัวเองให้ได้และเมื่อจังหวะเวลาและสถานที่เอื้ออำนวย คุณเป้ย – พลอยไพลิน กรประเสริฐวิทย์ จึงไม่รอช้าที่จะสานฝันนั้นให้เป็นจริง จนกลายมาเป็นร้านคาเฟ่สีเหลืองในบรรยากาศอบอุ่น ณ ท่าเตียน ถิ่นเก่าของคุณแม่
“…ต้มยำกุ้งมันเป็นอาหารหลักของไทย เหมือนส้มตำ ส่วนขนมหลักของไทยก็คือข้าวเหนียวมะม่วง”
โดยความพิเศษของคาเฟ่แห่งนี้เราขอเริ่มจากเมนูที่แสนจะมีเอกลักษณ์ “มะม่วง” ซึ่งเรียกได้ว่าเมนูกว่า 70% ของร้านเป็นเมนูที่มีมะม่วงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อย่าง Mango Smoothies ที่มีให้เราได้เลือกชิมถึง 4 รส ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของเนื้อมะม่วงล้วนๆ (pure), แบบใส่โยเกิร์ต (with yogurt), แบบใส่พุดดิ้ง (with pudding) และแบบใส่สาคู (with sago)
แน่นอนว่าเมื่อร้านนี้เป็นคาเฟ่ขนมหวาน จะขาดเมนูยอดฮิตอย่าง ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ได้อย่างไร แต่เมนูข้าวเหนียวมะม่วงของ Make Me Mango ไม่ได้เสิร์ฟเพียงข้าวเหนียวมูนและมะม่วงเท่านั้น แต่ในหนึ่งเซ็ตยังมีไอศกรีมมะม่วง สังขยา และพุดดิ้งมะม่วงที่เมื่อตักชิมจะได้ลิ้มลองซอสมะม่วงปั่นสดที่ซ่อนอยู่ด้วย โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านจึงมีชื่อเมนูชื่อเดียวกับชื่อร้าน “Make Me Mango” (185 บาท) นั่นเอง
“ต้มยำกุ้งมันเป็นอาหารหลักของไทย เหมือนส้มตำ ส่วนขนมหลักของไทยก็คือข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งมันค่อนข้างดังนะคะ เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง จีน แม้แต่คนไทย ใครๆ ก็ชอบกิน แล้วแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีข้าวเหนียวมะม่วง จะมีก็แค่เสริมเข้ามาหรือเป็นรถเข็น อีกอย่างร้านคาเฟ่ขนมแถวนี้มีน้อยมาก เพราะเป็นร้านอาหารหมดเลย”
อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบของหวานที่มีชื่อ ‘บิงซู’ ด้วยแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลอง “Mango Bingsu” (175 บาท) ซึ่งนอกจากมะม่วงหั่นเต๋าที่อัดแน่นเต็มชามแล้ว ยังมีไอศกรีมมะม่วงลูกโตเสิร์ฟให้เราได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย โดยเสิร์ฟพร้อมซอสมะม่วงปั่นสดและนมข้นให้เราเติมความหวานได้ตามต้องการ
“คอนเซ็ปต์หลักๆ ของร้านเราคือ ‘อาหารเราต้องอร่อย’ คือเราพยายามคุมคุณภาพ แต่มะม่วงจะคุมคุณภาพยากนิดนึง เพราะมะม่วงจะมาเป็นล็อต แต่เราจะรับมะม่วงเกรดดี เราพยายามคัดที่ดีที่สุด แต่บางทีอย่างช่วงหน้าฝนที่มีน้ำมาก มะม่วงที่ได้ก็มีรสจืดบ้าง
มะม่วงส่วนใหญ่ของเราจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่น้ำดอกไม้มันไม่มี เลยต้องเอาอย่างอื่นมาแทน แต่เราก็ซื้อให้ใกล้เคียงที่สุด แต่ส่วนใหญ่พื้นฐานแล้วเราจะใช้น้ำดอกไม้ เพราะมันค่อนข้างดังและอร่อย”
แต่ใครที่ไม่ได้นิยมชมชอบมะม่วง ที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ ให้เราได้เลือกชิม ไม่ว่าจะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่มีทั้ง Italian Soda รสต่างๆ และ Smoothies อื่นๆ อย่างสมูทตี้ลิ้นจี่ สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป และแตงโม ส่วนของหวานยังมี Coconut Sundae, Banoffee Sundae, Durian Sundae ฯลฯ นอกจากของหวานเบาๆ แล้ว Make Me Mango ยังเสิร์ฟอาหารจานเดียวอีกด้วย โดยจะเสิร์ฟเพียง 6-7 เมนูเท่านั้น แต่ทุกเมนูล้วนคัดสรรความอร่อยมาแล้ว อย่าง “ผัดไทย” (135 บาท) เมนูยอดนิยมของร้านทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ
“ไม่ใช่ทุกเมนูที่เป็นมะม่วงนะคะ แต่ว่าหลักๆ จะเป็นมะม่วง เพราะว่าชื่อร้านของเราเป็น make me mango แต่เราก็ยังมีผลไม้อย่างอื่นด้วย อย่างบิงชูผลไม้รวมก็จะมีกีวี สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป หรือจะเป็นไอติมมะพร้าว ไอติมทุเรียน ฯลฯ สาเหตุที่เรามีเมนูอื่นๆ เพิ่มเข้ามา เพราะว่าบางทีเพื่อนชอบมะม่วง แต่ตัวเองไม่ชอบ ก็เลยคิดเมนูอื่นๆ เพื่อเสริมเข้ามา แต่ว่าเมนู 70% ของเราเป็นมะม่วง”
“เป้ยเชื่อว่า ร้านที่สวยมันทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้…”
อีกหนึ่งความพิเศษที่ชวนให้เราหลงรักคาเฟ่แห่งนี้คือการตกแต่งร้าน ซึ่งคุณเป้ยเล่าให้เราฟังว่า แต่เดิมที่แห่งนี้เป็นตึกเก่าที่มีอายุกว่า 40 ปี ซึ่งเคยเป็นร้านเสริมสวยมาก่อน แม้ตัวโครงสร้างจะยังแข็งแรง แต่ภายในต้องรีโนเวทใหม่ทั้งหมด ผนวกกับที่คุณเป้ยรู้จักกับอินทีเรีย คุณจุ๊ – จุฬาทิพย์ อินทราไสย ซึ่งมาช่วยออกแบบและทำให้ตึกเก่าแห่งนี้โดดเด่นแบบไม่ซ้ำใคร
“เป้ยคุยกับอินทีเรียว่า อยากได้บรรยากาศอบอุ่นๆ สีขาว – ดำ – เทา เพราะเป้ยไม่ชอบสีรุ้ง แล้วก็มีเหล็กมาทำให้ร้านดูโมเดิร์น มีไม้มาทำให้ร้านอบอุ่น คือเป้ยเชื่อว่า ร้านที่สวยมันทำให้อาหารอร่อยขึ้นได้ คือยังไงก็ตามร้านที่สวยจะทำให้รู้สึกชิลได้ และที่เป้ย require เขาเลยคือ net bed hammock ที่แบบว่าให้คนมานอนชิลๆ ได้ แล้วเราก็มีหนังสือต่างประเทศมาไว้ให้อ่าน ที่ร้านจึงมีทั้งคนที่มานอนชิล และมีส่วนหนึ่งที่เอารูปมาวาด เพราะร้านนี้ชิลจริงๆ”
จุดเด่นของร้านคงเป็นการเล่นกับเส้นสาย ไม่ว่าจะเป็นความเก๋ของพื้นชั้นล่างซึ่งออกแบบและใช้สีพิเศษเขียนคำว่า mango เอาไว้ หรือชั้นวางหนังสือและต้นไม้ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางร้านและมีความสูงจากพื้นจรดเพดาน รวมทั้งการเล่นกับลายตารางในพื้นที่โล่งบนผนังแต่ละด้าน ผนวกกับความเก่งของอินทีเรียที่สามารถเนรมิตตึกเก่าจากสองชั้นให้กลายเป็นสองชั้นครึ่ง ทำให้ภายในร้านโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด และยังออกแบบให้ทุกพื้นที่ในร้านถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้วอีกด้วย อีกหนึ่งไฮไลท์ที่คงถูกใจคุณผู้อ่านที่รักการถ่ายภาพคือ Make Me Mango จะมีมุมถ่ายรูปที่หลากหลายให้เราได้เก็บภาพไปอวดเพื่อนๆ นั่นเอง
Address : ท่าเตียน ตรงข้ามวัดโพธิ์ ซอยเดียวกับโรงแรม Inn a day (ซอยระหว่าง The Deck และ ศาลารัตนโกสินทร์ จุดสังเกตปากซอยจะเป็นธนาคารกรุงไทย)
GPS : 13.7451153,100.4911125
Time : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.30 – 20.00 น.
Tel : 02 622 0899
Facebook : www.facebook.com/makememango
Instagram : www.instagram.com/makememango