SOMTUM VILLA ตำรับอาหารอีสานในบรรยากาศยุโรป
ใครจะคิดว่าอาหารไทย – อีสานอย่าง ‘ส้มตำ’ ซึ่งเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนจะเสิร์ฟในบรรยากาศยุโรปสุดคลาสสิก แต่วันนี้ “ส้มตำวิลล่า” (Somtum Villa) ไม่เพียงแต่เสิร์ฟความอร่อยในรสชาติต้นตำรับเท่านั้น แต่ยังเสิร์ฟบรรยากาศสุดคูลภายใต้สถาปัตยกรรม ‘โบสถ์’ สไตล์ยุโรปอีกด้วย …แต่ก่อนที่เราจะพาคุณผู้อ่านไปชิมความอร่อยของอาหารไทย – อีสาน พร้อมเสพย์สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปนั้น เราขอแนะนำความเป็นมาของส้มตำวิลล่าแห่งนี้กันก่อน
คุณผู้อ่านคงพอทราบกันแล้วว่าร้าน “ส้มตำวิลล่า” เป็นโซนหนึ่งในโครงการ A La Campagne พัทยา แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ร้านส้มตำวิลล่าร้านนี้เป็นร้านอาหารร้านแรกและเป็นร้านริเริ่มที่จุดประกายความเก๋ไม่ซ้ำใครให้สถานที่พักตากอากาศแห่งนี้ ก่อนที่จะมีโซนอื่นๆ ตามมา
จากความต้องการที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันระหว่างบรรยากาศ ‘หมู่บ้านชนบทสไตล์ยุโรป’ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของโครงการ กับความชื่นชอบอาหารไทย – อีสานของ คุณเก๋-ชมพูนุท อิ่มอุดม เจ้าของโครงการซึ่งอยากเสิร์ฟอาหารไทยๆ อย่างส้มตำ แม้จะมีความต้องการที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน แต่ท้ายที่สุดก็สามารถหาจุดร่วมจนรังสรรค์มาเป็นร้านส้มตำในบรรยากาศยุโรปแห่งนี้
คุณเก๋เล่าถึงความคิดของการออกแบบร้านส้มตำวิลล่าที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยในบรรยากาศยุโรปว่า “ถึงแม้ว่าตัวอาคารจะเป็นยุโรป แต่เราก็ใช้อุปกรณ์ไทยๆ ในการตกแต่ง อย่างเพดานร้านก็ใช้ไส้ในของโคมไฟฝีมือคนไทยมาแต่ง ส่วนบนโต๊ะกินข้าวก็จะมีพร๊อบเป็นของใช้ไทยๆ อย่างฝาชีกับกระติ๊บ เพราะฉะนั้นแล้วการตกแต่งจึงลิงก์กลับไปเรื่องอาหารซึ่งเป็นอาหารไทย เราคิดว่ามันจึงไม่ได้ดูเคอะเขินหากเราจะขายอาหารไทยในตึกยุโรป
อีกอย่างคือ เรามีความตั้งใจที่จะขายอาหารไทยตั้งแต่วันแรกที่คิดโครงการ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่เราทำโครงการ เราคุยกับทีมอินทีเรียดีไซน์และสถาปนิกว่า ส้มตำต้องกินแบบโอเพ่นแอร์นะถึงจะอร่อย การออกแบบของตึกนี้จึงมีดีไซน์ที่ให้ลมพัดผ่านได้ทั้งหมด ดังนั้นรูปแบบร้านนี้ก็จะเป็นสถาปัตยกรรมเหมือนโบสถ์ที่ลมพัดเข้าได้ทุกทิศทาง นอกจากนี้เรายังปลูกต้นไม้ล้อมรอบเหมือนคุณนั่งทานอาหารในสวน”
ส้มตำต้องกินแบบโอเพ่นแอร์นะถึงจะอร่อย
ดังนั้นเมื่อร้านส้มตำวิลล่าจึงเป็นร้านอาหารไทย – อีสานในบรรยากาศยุโรปที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนพัทยา แน่นอนว่านอกจากบรรยากาศของร้านแล้ว รสชาติอาหารก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สำหรับร้านส้มตำวิลล่านี้ คุณเก๋ได้วางคอนเซ็ปต์เรื่องของรสชาติและเมนูอาหารเอาไว้ว่า ‘เสมือนเรามากินข้าวบ้านเพื่อน แล้วคุณแม่ของเพื่อนก็ทำกับข้าวให้เรากิน’ ผนวกกับความชอบในอาหารไทย ทำให้เมนูของร้านมีทั้งเมนูอีสานรสดั่งเดิมกับเมนูอีสานแบบฟิวชั่นที่นำเอาอาหารอีสานแท้ๆ มาผสมกับรสชาติอาหารไทยอื่นๆ ซึ่งทางร้านมีสูตรเฉพาะที่รับรองว่าอร่อยไม่ซ้ำใคร โดยส้มตำวิลล่ามีเมนูให้เลือกชิมกว่า 40 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นเมนูส้มตำ ทอด ปิ้ง ย่าง รวมทั้งกับข้าว ฯลฯ ขอเริ่มจาก…
เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้ชื่อเดียวกับชื่อร้าน ส้มตำวิลล่า เมนูส้มตำฟิวชั่นที่ผสมผสานระหว่างส้มตำไทยกับอาหารทะเล โดยเติมความอร่อยด้วยกุ้งลายเสือทอดตัวใหญ่กับเนื้อปลาแซลม่อนดิบ ด้านบนโรยด้วยมะม่วงหิมพานต์และราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเฉพาะของร้าน ต่อกันด้วยการเอาใจคนรักส้มตำปูปลาร้ากับ ส้มตำหนองคาย อีกหนึ่งเมนูเด่นของร้านที่ไม่ควรพลาด ความพิเศษของจานนี้นอกจากปลาร้าที่ทางร้านเคี่ยวด้วยสูตรเฉพาะจนได้ปลาร้าที่หอมชวนน้ำลายไหลแล้ว ยังเพิ่มเท็กเจอร์ให้มีความกรุบกรอบในการทานด้วยกุ้งฝอยพูนจานและเสริมความมันด้วยเม็ดกระถิ่น
อีกเมนูที่ควรคู่กับส้มตำคือเมนู ไก่เหลืองคอมปาณย์ หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ไก่เหลืองจอมเทียน’ เมนูขึ้นชื่อที่เราต้องทานทุกครั้งเมื่อไปเยือนพัทยา ร้านนี้จึงไม่พลาดที่จะเสิร์ฟเมนูนี้ให้เราได้ลิ้มลอง โดยไก่เหลืองคอมปาณย์นี้เป็นไก่หมักขมิ้นสูตรเฉพาะของร้านอีกเช่นเคย โดยไก่ที่เลือกใช้นั้นเป็นไก่จากเอสเพียวเกรด โดยมีให้เลือกทั้งเนื้อสะโพก เนื้อปีก และเนื้ออก เพิ่มความหอมเรียกน้ำย้อยด้วยการปิ้งบนเตาถ่านที่ทำให้ไก่มีกลิ่นหอมชวนทานมากยิ่งขึ้น
ตามด้วยเมนู พร่าสแกลล็อป ซึ่งเรามักคุ้นเคยกับพร่ากุ้ง แต่มาที่นี่เราจึงไม่อยากให้พลาดความอร่อยแบบใหม่กับพร่าสแกลล็อป ที่มีความหวานจากสแกลล็อปสดใหม่ส่งตรงจากญี่ปุ่น เพิ่มความอร่อยให้ทุกเมนูด้วย ข้าวเหนียวดำ ซึ่งข้าวเหนียวของที่นี่ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูของเชียงราย โดยข้าวเหนียวดำของร้านนี้จะมีความกรุบเหมือนข้าวเหนียวที่ยังไม่สุก แต่แท้จริงแล้วเป็นเท็กเจอร์ของความอร่อย โดยความกรุบนี้ได้จากกลวิธีการซาวและการแช่ข้าวเหนียว ซึ่งเป็นเคล็ดลับเฉพาะของร้านอีกเช่นกัน
ส่วนเครื่องดื่ม เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มสมุนไพรและเครื่องดื่มไทยๆ ซึ่งทางร้านจะต้มและชงเอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะตูม น้ำลำไย น้ำตะไคร้ โอเลี้ยง ฯลฯ โดยเมนูเครื่องดื่มที่ซิกเนเจอร์ของร้านคือ อิตาเลี่ยนโซดามะม่วง ซึ่งใช้มะม่วงถึง 3 สายพันธุ์ด้วยกันคือ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง และมะม่วงแก้ว อีกหนึ่งความพิเศษของส้มตำวิลล่าคือ การเสิร์ฟผักสดที่เก็บมาจากฟาร์มหลังร้าน ซึ่งรับรองความสดและปลอดสารเคมีอย่างแน่นอน ส่วนบรรดาเครื่องปรุงอย่างปลาร้า ข้าวคั่ว และน้ำจิ้มนานาชนิด ล้วนเป็นของโฮมเมดที่ทางร้านทำเองอีกด้วย
Address : โครงการ A La Campagne ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามอัยการพัทยา ก่อนถึงสี่แยกห้วยใหญ่ กม.153
GPS : 12.859586,100.909252
Time : เปิดให้บริการทุกวัน โดยจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่ 08.00 – 21.00 น. และศุกร์-อาทิตย์ 08.00 –22.00 น.
Phone : 061 – 441 – 5181
Facebook : www.facebook.com/A-La-Campagne-Pattaya
