“กาแฟร้านเราไม่ได้มีเลเยอร์ ไม่ได้สวยงาม แต่เราต้องการแค่ว่า ดูดคำแรกแล้วมันอร่อยเลย…”
นี่อาจเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ Mama Café ประสบความสำเร็จก็เป็นไปได้ เพราะ Mama Café ณ เกษตรนวมินทร์ เป็นสาขาที่ 4 ของแบรนด์ Mama Café ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จัก!
ภายใต้ความอร่อยของเครื่องดื่ม เคล้าบรรยากาศเรียบ แต่เท่ กับสถาปัตยกรรมทรงกล่องสีดำที่สะดุดตา คือความตั้งใจของคุณโกกิ – นครินทร์ ฉัตรจรัสแสง ที่ต้องการสื่อถึงการเติบโตของแบรนด์ Mama Café ที่มีจุดเริ่มต้นจากศูนย์ โดยคุณโกกิ เล่าให้เราฟังว่า Mama Café สาขาแรกนั้น ในวันที่เปิดทำการมีเพียงเคาน์เตอร์เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่ได้มีโต๊ะเก้าอี้หรือพื้นที่ที่เป็นอาณาจักรอย่างชัดเจน แต่ในวันนี้ Mama Cafe ได้เติบโตและสร้างอาณาจักรจนมีถึง 4 สาขาด้วยกัน และจะไม่หยุดที่จะเติบโตต่อไป
“ความแตกต่างของเรา จริงๆ แล้วเรามองลูกค้าทุกคนเป็นครอบครัว มันก็เลยมีชื่อร้านว่า ‘มามา’ ประมาณว่า มามาทำอะไรกันดี มามากินกาแฟกัน อะไรอย่างนี้
จากนั้นมา เราก็เริ่มขยายคอนเซ็ปต์ คือเรามีกลุ่มลูกค้าเป็นลูกค้าออฟฟิศ เราก็เลยต่อยอดเป็น มามาเป็นแก๊ง มามาคนเดียว จนเราเดินทางมาถึงสาขาที่ 4 เราเลยอยากเปิดร้านกาแฟที่ไม่ใช่แค่เข้ามาดื่มกาแฟอย่างเดียว เราต้องการให้คนเข้ามาร้านแล้วกินได้ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกวัย ร้านที่ 4 ก็เลยตรงคอนเซ็ปต์ที่ว่า ‘มามาเป็นครอบครัว’ ก็คือร้านนี้เราจะแยกออกมาเป็น stand alone ให้อากงอาม่าพาหลานมากิน”
เพราะแยกร้านออกมาเป็น Stand Alone การตกแต่งร้านจึงมาพร้อมความไม่ธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อคุณโกกิมีอาชีพที่คลุกคลีในวงการแฟชั่นด้วยแล้ว การรีโนเวทจากร้านเปลี่ยนยางรถยนต์ เป็นคาเฟ่ๆ ที่โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นจึงไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มจากภายนอกที่ออกแบบให้เป็นอาคารทรงกล่องสีดำเข้ม รอบๆ โรยด้วยหินกรวดที่คุณโกกิตั้งใจเนรมิตให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น outdoor รับลมในหน้าหนาว พร้อมปลูกต้นไม้มาทำหน้าที่สร้างความร่มรื่นและสีสันให้คาเฟ่แห่งนี้
ส่วนภายในแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนคาเฟ่ที่ออกแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมอล เพียงแต่เติมความเท่ผ่านผนังปูนเปลือยและเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สั่งทำพิเศษ ข้างๆ กันออกแบบเป็นพื้นที่ต้อนรับลูกค้าที่แวะเวียนมาฝากท้อง ซึ่งเป็นพื้นที่แบบ open air พร้อมเสิร์ฟเมนูอิ่มท้องอย่างก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีนและสเต็กให้เราแวะทานก่อนกลับบ้าน
“เราชอบสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่สาขานี้เราอยากให้ร้านดูเท่ขึ้น เพื่อที่จะบอกว่าเราโตขึ้นแล้วนะ เราเดินทางมา 4 ปีแล้ว เราก็เลยอยากให้มันแข็งแรงขึ้น ก็เลยเป็นเหล็กๆ สีดำเข้มๆ แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบง่าย”
ขณะที่เมนูเครื่องดื่มยังคงยกความอร่อยมาเสิร์ฟ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์คือ “Cappuccino” (60 บาท) ที่ให้รสชาติกลมกล่อมจากเมล็ดกาแฟ House Blend ที่ทางร้านคั่วเอง “เมนูที่เราแนะนำเลยคือคาปูชิโน่ อันนี้จะให้รสชติกลางๆ ไม่เข้มไป อ่อนไป ทุกอย่างมาจากเมล็ดกาแฟที่เราคั่วเอง เป็นกาแฟที่คนสั่งกันมากที่สุด”
“กาแฟร้านเราไม่ได้มีเลเยอร์ ไม่ได้สวยงาม แต่เราต้องการแค่ว่า ดูดคำแรกแล้วมันอร่อยเลย เพราะทุกคนเร่งรีบ ทุกคนไม่มีเวลามาสโลว์ไลฟ์ มาดูว่าแก้วนี้เป็นเลเยอร์ คือเราไม่ได้ต้องการแบบนั้น เพราะเราขายในตึกออฟฟิศ เรารู้ว่าทุกคนเร่งรีบ เลยต้องการให้กิน อร่อย แล้วไปสู้กับการทำงาน”
อีกหนึ่งเมนูแนะนำสำหรับคนไม่ดื่มกาแฟกับ “Black Cocoa” (85 บาท) ที่เสิร์ฟรสชาติเข้มข้นของโกโก้ที่คุณไม่เคยดื่มมาก่อน เป็นอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ที่ Mama Café การันตีความอร่อย ที่สำคัญทุกเมนูของร้านนี้ เรายังสามารถกำหนดความหวานได้ด้วยตัวเอง
“โกโก้กับชาเขียวของเรา เดิมทีมันก็เป็นซิกเนเจอร์ของร้านอยู่แล้ว ซึ่งข้อแตกต่างของร้านเรา คือเราใช้ใบชาจริงๆ ในการบ่มแก้วแต่แก้ว เราไม่ได้ชงทิ้งไว้เป็นเหยือก มันจะได้ความเข้ม ความหอม ความมัน ลูกค้าก็เลยชอบ มีลูกค้าบอกว่า เฮ้ย! รสชาติแบบนี้ แต่ในราคาแบบนี้ มันขายได้ยังไง แต่เราขายได้ เพราะว่าเราขายในจำนวนที่เยอะมาก”
ส่วนใครชอบเครื่องดื่มรสหวานซ่อนเปรี้ยว แนะนำให้ลอง “Yogurt Peepo” (75 บาท) หรือโยเกิร์ตปีโป้ โดยทางร้านเลือกใช้โยเกิร์ตแท้ๆ จึงให้รสเข้มข้น ผสานกับความหนึบของปีโป้ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ว่าใครได้ลิ้มลองต่างก็หลงรักได้ไม่ยาก
นอกจากเมนูเครื่องดื่มแล้ว Mama Café สาขาเกษตรนวมินทร์แห่งนี้ยังแตกต่างจากสาขาอื่นๆ เพราะความตั้งใจที่จะเสิร์ฟความอร่อยแบบครอบครัวที่คนทุกวัยแวะเวียนมาได้ ที่นี่จึงออกแบบให้มีโซนอาหาร โดยคุณโกกิเลือกหยิบเคล็ดลับความอร่อยจากสูตรอาม่าอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นยาจีน” (60 บาท) มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง โดยมีให้เลือก 2 รสชาติคือ ซุปน้ำดำยาจีนกับน้ำต้มยำ ความเด็ดของเมนูนี้อยู่ที่การตุ๋นไก่ด้วยสมุนไพรจีนจนได้รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเต็มชาม
“ที่นี่จะต่างจากสาขาอื่นตรงที่จะมีส่วนของอาหารเข้ามา เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ซึ่งเป็นเมนูที่ตอนเด็กๆ เรากินกันอยู่แล้วกับที่บ้าน คือก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นที่อื่นก็มี แต่ของเราใส่ความอร่อยสมัยอาม่าเข้าไป ทุกอย่างเราตุ๋นยาจีน น้ำซุปของเราจะหอมเครื่องเทศยาจีน ส่วนหนึ่งที่เราทำสูตรนี้ คือโดยส่วนตัวที่บ้านเรา เราก็ทานแบบนี้อยู่แล้ว เราก็อยากให้สิ่งที่ดีกับลูกค้า เรากินแบบนี้มันดีนะ เราไม่เอาของไม่ดีมาให้ลูกค้าทาน
และที่เราบอกว่า เราตั้งใจให้ที่นี่เป็น family เราก็เพิ่ม ‘สเต็ก’ เข้ามาตอน 4 โมงเย็น ฟีดแบ็คที่ได้กลับมา กลายเป็นว่าทุกคนกินแล้วอร่อย สาขานี้ก็เลยมีส่วนของอาหารเพิ่มขึ้น คาเฟ่นี้มันก็เลยเป็นกาแฟ เบเกอรี่ และก็ก๋วยเตี๋ยวกับสเต็ก”
“อีกอย่างเราไม่ได้อยากแค่เปิดร้านสวยอย่างเดียว แล้วคนมา Check in ถ่ายรูปแค่ครั้งเดียว ร้านเราคือคอนเซ็ปต์ชีวิตจริง ขายจริงๆ ขายถูกๆ กินอร่อยจริง แล้วกินซ้ำทุกวัน เราต้องการแค่นี้ ส่วนที่ลูกค้ามาถ่ายรูป อันนี้คือผลกำไรของเรา แต่หัวใจหลักๆ คือเราต้องการให้ทุกคนกินของอร่อยและถูกจริงๆ”
Mama Cafe @ เกษตรนวมินทร์
• Address: Max Value เกษตรนวมินทร์
• Map: https://goo.gl/maps/FSw2dmSZHvs
• Time: เวลา 8.00 – 21.00 น. เปิดทุกวัน
• Tel: 089 795 9449
• FB: www.facebook.com/mamacafe-1887600154814959/
Story: Taliw
Photo: Wara Suttiwan