Café Phom Kanom Ter คาเฟ่วินเทจที่เสิร์ฟรสหวานของขนมคู่กับรสขมของกาแฟ

Café Phom Kanom Ter
คาเฟ่วินเทจที่เสิร์ฟรสหวานของขนมคู่กับรสขมของกาแฟ

“ชื่อนี้ตอนตั้งมันไม่ได้มาตั้งแต่แรก มันมีชื่อโน้นชื่อนี้เต็มไปหมด แต่สุดท้ายก็ยังไม่ถูกใจสักที ผมเลยไปเปิดไดอารี่ที่ผมเคยเขียนไว้ มันมีประโยคหนึ่งที่ผมเขียนไว้ว่า ‘กาแฟขม ขนมหวาน’ ผมก็เลยมาเปลี่ยนนิดนึงให้มันคล้องจอง เป็น “กาแฟผม ขนมเธอ” แล้วเขา (คุณหญิงเดียว) ชอบ”

คาเฟ่ชื่อน่ารักที่โดดเด่นด้วยขนมหวานโฮมเมดจากแบรนด์ Yingdeaw Homemade ที่ได้ขยับขยายและปรับเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่ของคนรักกาแฟและขนมหวานที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีคุณหญิงเดียว – นภัชชา วัฒนะสิมากร และคุณปอนด์ – ชาติวุฒิ เจิมธเนศ เป็นเจ้าของที่คอยครีเอทความอร่อยของขนมและเครื่องดื่มขึ้นใหม่ในทุกๆ เดือน

จุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณหญิงเดียวขยับจากร้านย่านสยามสแควร์มาเป็นซอยงามวงศ์งาม 43 ก็เพียงเพื่อขยับขยายพื้นที่ในการทำขนม ขณะที่คุณปอนด์เองก็ต้องการสตูดิโอสำหรับนั่งทำงานที่เป็นกิจจลักษณะ ทั้งสองคนจึงตกลงที่จะมาเปิด Café Phom Kanom Ter กันที่นี่ โดยมีคอนเซ็ปต์ว่า ‘เหมือนร้านกาแฟที่อยู่ในมุมซอยของชุมชน เป็นร้านกาแฟที่คนแถวนี้เขามานั่งกัน มาเจอกันได้’

“…เหมือนร้านกาแฟที่อยู่ในมุมซอยของชุมชน เป็นร้านกาแฟที่คนแถวนี้เขามานั่งกัน มาเจอกันได้”

“ตอนตั้งชื่อร้านเราก็คุยกันว่าจะใช้ชื่อเดิมไหม เขา (คุณหญิงเดียว) ก็ไม่อยากใช้ชื่อเดิม เขาอยากใช้ชื่อใหม่ ชื่อนี้ตอนตั้งมันไม่ได้มาตั้งแต่แรก มันมีชื่อโน้นชื่อนี้เต็มไปหมด แต่สุดท้ายก็ยังไม่ถูกใจสักที ผมเลยไปเปิดไดอารี่ที่ผมเคยเขียนไว้ มันมีประโยคหนึ่งที่ผมเขียนไว้ว่า ‘กาแฟขม ขนมหวาน’ ผมก็เลยมาเปลี่ยนนิดนึงให้มันคล้องจอง เป็น “กาแฟผม ขนมเธอ” แล้วเขาชอบ

แต่พอเขียนภาษาอังกฤษ ตอนแรกก็ใช้คำว่า Coffee แต่เรารู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็เลยใช้คำว่า Café แทน ซึ่งความหมายของ Café มันหมายถึงสถานที่ได้ด้วย หมายรวมถึงบรรยากาศของตัวร้านด้วย”

Café Phom Kanom Ter เป็นร้านคาเฟ่สไตล์วินเทจที่แฝงกลิ่นอายผู้ชายเอาไว้ผ่านความเซอร์และดิบจากไม้และเหล็ก ซึ่งคุณปอนด์ออกแบบด้วยตัวเอง โดยคาเฟ่แห่งนี้เป็นตัวตนที่ของคุณหญิงเดียวที่ชื่นชอบงานวินเทจ มาผสมผสานกับความเซอร์และดิบสไตล์ผู้ชายของคุณปอนด์จนได้บรรยากาศที่ลงตัว ยิ่งเมื่อคุณหญิงเดียวชื่นชอบต้นไม้และปลูกต้นไม้ไว้ทุกมุมร้าน ยิ่งขับให้คาเฟ่แห่งนี้น่านั่งชวนสบาย

ส่วนเมนูขนมหวานของร้านก็การันตีรสชาติได้จากความนิยมของแบรนด์ Yingdeaw Homemade เพียงแต่เพิ่มเติมเครื่องดื่มกาแฟให้เข้าคู่กับขนมหวานอย่างลงตัว “ตอนที่เริ่มทำร้านนี้พี่ (คุณหญิงเดียว) คุยกันกับแฟนว่าเราทำร้านด้วยกันดีกว่า คือพี่ไม่ถนัดเรื่องกาแฟ จะเน้นเป็นพวกขนมล้วนๆ

(คุณปอนด์) จริงๆ ตอนที่ทำที่สยาม ผมก็เริ่มเย็บๆ ไปว่าน่าจะปรับกาแฟหน่อยไหม น่าจะให้กาแฟมีรสชาติที่ไปด้วยกันกับขนมหน่อย เพราะเมื่อก่อนเขา (คุณหญิงเดียว) จะไม่ได้เน้นกาแฟ คือแค่ให้มีกาแฟ เน้นขนมเป็นหลัก กาแฟเป็นส่วนประกอบ แต่ตอนนี้เราทำให้กาแฟค่อนข้างชัดเจนขึ้น”

เพราะให้ความสำคัญกับเมล็ดกาแฟก่อนแล้ว เมนูกาแฟมันก็เลยซิกเนเจอร์ในตัวของมันเอง

“จริงๆ แล้วกาแฟไม่มีเมนูซิกเนเจอร์ แต่ตัวเมล็ดกาแฟผมไปเบลนด์มาเอง เป็นรสชาติที่เราอยากได้ คือเราไป cupping เมล็ดกาแฟให้ได้รสชาติที่เราชอบ และเป็นรสชาติที่ดื่มกับเค้กได้พอดี ไม่อ่อน ไม่เข้มจนเกินไป คือเราไม่อยากให้กาแฟมันจัดเกินไป แล้วมาแข่งกับขนม โดยเมล็ดกาแฟของเราเป็นอาราบิก้าที่ติดโรบัสต้ามานิดหน่อยให้มันมีเสน่ห์ เพราะเราชอบความถั่วของโรบัสต้า”

May be Coffee
Mocha Brownie (90 บาท)

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของ Café Phom Kanom Ter คือการครีเอทความอร่อยใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองแบบไม่มีเบื่อ ทั้งเมนูขนมหวานและเมนูเครื่องดื่ม อย่างเดือนนี้ทางร้านนำเสนอเมนู “May be Coffee” ที่ผสมผสานความสดชื่นของลิ้นจี่เข้ากับความเข้มขมของซ็อตเอสเปรสโซ่ จนได้เครื่องดื่มรสกลมกล่อม คุณปอนด์บอกว่าที่ใช้ชื่อว่า May be เพราะเมนูนี้ ‘จะเป็นกาแฟก็ไม่ใช่ จะเป็นน้ำผลไม้ก็ไม่เชิง’ อีกอย่างคำว่า May ยังหมายถึงเดือนพฤษภาคมด้วย

ส่วนเมนูขนม หากเป็นซิกเนเจอร์คงต้องยกให้กับ ‘เค้กมะพร้าวอ่อนทับทิมกรอบ’ แต่ก็ยังมีอีกหลายเมนูที่ลูกค้านิยมสั่งกัน อย่าง “Mocha Brownie” (90 บาท) ขนมเค้กที่นำเสนอความลงตัวของมอคค่า ซึ่งเสมือนเราดื่มกาแฟม็อคคาที่ให้ทั้งรสช็อกโกแลตและกาแฟ ท็อปด้วยอัลมอนด์ท๊อปฟี่และเติมรสหวานผ่านคาราเมล โดยเคล็ดลับความอร่อยของเมนูนอกจากรสชาติแล้ว ก็คือรสสัมผัสที่หลากหลาย ทั้งความหนึบของบราวนี่และกานาช กับความกรุบกรอบของอัลมอนด์ท๊อปฟี่

Mix Nuts & Cranberry (70 บาท)
Valencia Orange Cake (85 บาท)

ต่อกันด้วย “Mix Nuts & Cranberry” (70 บาท) ที่ผสมความอร่อยอย่างลงตัวของถั่วแมคคาเดเมียกับแครนเบอรี่ ให้สัมผัสหนึบกรอบ พร้อมด้วยความหอมและเข้มข้นของดาร์กช็อกโกแลตที่ขับให้ขนมชิ้นนี้อร่อยยิ่งขึ้น

ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งเมนูขายดี “Valencia Orange Cake” (85 บาท) เค้กส้มวาเลนเซียแท้ๆ ที่นอกจากจะขูดผิวส้มช่วยเพิ่มกลิ่นแล้ว ภายในยังใส่เนื้อส้มวาเลนเชียจนได้รสชาติแบบเข้มข้น เติมรสแฝงผ่านผลไม้รวมหลากหลายชนิดที่คุณหญิงเดียวหมักและเชื่อมเอง เป็นเมนูที่ทานได้กับเครื่องดื่มทุกเมนู

“จากฟีดแบ็คที่ลูกค้ามาร้าน ผมคิดว่าจุดเด่นของเราน่าจะเป็นบรรยากาศร้าน ในโซนนี้ลูกค้าบอกเราว่า ถ้ากาแฟถูกใจ ร้านก็นั่งไม่สบาย บางร้านนั่งสบาย แต่รสชาติขนมกับกาแฟก็ไม่ถูกปาก แต่ร้านเราทั้งกาแฟและขนมเค้กที่อร่อย แล้วก็บรรยากาศดี ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้า ผู้ชายจะชอบกินกาแฟ ผู้หญิงก็จะชอบขนมเค้ก ก็จะมาด้วยกันได้

ผมอยากให้ร้านนี้เหมือนร้านกาแฟที่อยู่ในมุมซอยของชุมชน เป็นร้านกาแฟที่คนแถวนี้เขามานั่งกัน มาเจอกันได้ อันนี้เป็นคอนเซ็ปต์หลักที่ผมคิดไว้ตอนแรกเลย เราอยากทำให้ร้านไม่เกร็ง อยากให้นั่งสบายๆ ไม่ต้องเขินกัน”

Café Phom Kanom Ter
• Address: ซอยงามวงศ์งาม 43
• Map: https://goo.gl/maps/J4hantUo3DS2
• Time: เวลา 09.00 – 19.00 น. ปิดวันจันทร์
• FB: www.facebook.com/cafephomkanomter/

Story: Taliw
Photo: Wara Suttiwan

keyboard_arrow_up