หนีฝน..ไปซนที่เชียงราย
เมื่อพูดถึงเชียงรายคุณนึกถึงอะไร…?
สำหรับเรา นึกไม่ออกเลยนอกจากการไปถ่ายรูปที่วัดร่องขุ่น กับ การไปเดินซื้อหนังจีนชุดที่แม่สาย
ถ้าถามว่าเคยไปแล้วรึเปล่า? เปล่าเลย..ที่พูดมาคือภาพความทรงจำของการดูผ่านอินเตอร์เน็ต โดยส่วนตัวยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดนี้ที่มีนามว่า “เชียงราย” เลย ฉะนั้นเรามาเปิดซิงเที่ยวเชียงรายด้วยการตามรอยเซิร์ทเอ็นจิ้น และโทรถามเพื่อน พร้อมร่วมผจญภัยไปด้วยกันในมุมมองของช่างภาพพาเที่ยวพร้อมกันครับ
เริ่มเช้ามารีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากโรงแรม ตั้งต้นด้วยการหาของทานจากโจทย์ที่ว่า “อยากทานเนื้อ ที่มาในรูปแบบของก๋วยเตี๋ยวหรือข้าว” จึงเริ่มต้นเข้าเกียร์ D ออกเดินทางไปตามถนนแล้วก็ไปสะดุดตากับร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอนาฬิกาเมืองเชียงรายมากนัก ชื่อร้านว่าเนื้อวัวรสเยี่ยม เรากับเพื่อนเปิดรับเช้าวันใหม่ใสใส ด้วยการสั่งข้าวหน้าแกงกะหรี่เนื้อมาคนละจานและเกาเหลาเนื้อรวมมา 1ชาม เกาเหลาเนื้อรวมคือรวมสหประชาชาติแห่งประเภทของเนื้อมาทั้งหมด
“อร่อยหรือเปล่า” ตอบสั้นๆว่า อร่อยครับ แต่ขอไม่บรรยายอย่างลึกซึ้งว่ามันอร่อยเพียงไหน เพราะไม่อยากมาสาธยายว่าเนื้อนุ่มจนละลายในปาก และไม่มีกลิ่นสาปและคาวของเนื้อ อีกทั้งน้ำซุป และก็รสชาติกลมกล่อมไม่หนักเค็มแบบร้านอื่นทั่วๆไป จบไปสำหรับมื้อเช้าของการเปิดตัวจังหวัดที่แสนจะสโลว์ไลฟ์แห่งนี้
อิ่มท้องแล้ว ได้เวลาเริ่มต้นความบันเทิงกันต่อ ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสิงห์ปาร์คกัน จุดหมายแรกของวันนี้ จากในตัวเมืองเชียงรายลงมาทางใต้ เราไม่ลังเลที่จะเช่าจักยานกัน เพื่อจะได้ชมดอกไม้ดอกไร่กันอย่างถึงอรรถรส การขี่จักยานไปเรื่อยๆ ในวันที่อากาศครึ้มๆสลับกับแดดออก ถือเป็นสิ่งดีเพราะมันไม่ร้อนมาก แต่กระนั้นเส้นทางที่ยาวที่สุดคือ 9 กม. อาจจะไม่ชิลนักสำหรับคนที่คิดจะมาชิลรับลมเล่น ถ้าพร้อมแล้วก็ไปปั่นด้วยกันครับ
ไร่บุญรอดแห่งนี้ ปลูกชาอู่หลงเบอร์12 รายล้อมไปด้วยวิวสวย เหมาะกับที่จะมาปั่นจักรยานและถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความงามรอบๆ หากเหนื่อยก็ยังมีจุดแวะพัก นั่งทอดอารมณ์มองวิวของอ่างเก็บน้ำ พร้อมลานกิจกรรม ที่สำคัญ!! แน่นอนคุณอยู่ในพื้นที่ของเจ้าพ่อแห่งวงการเครื่องดื่ม ใยเล่าจะไม่มีเครื่องดื่มให้บริการ พร้อมกับไอศกรีมรสอร่อยไว้สร้างอารมณ์สุข
พอเที่ยงความหิวก็มา พร้อมปิ๊งไอเดียจากการเสิร์ชหาเช่นเคย และปักหมุดพื้นที่มุ่งหน้าไปยังร้านน้ำเงี้ยวป้าสุข รสชาติอร่อยสมคำรำ่ลือ เรากับเพื่อนสั่งมาคนละชามแล้วเพิ่งจะมาสังเกตเห็นโต๊ะรอบข้างนั้นสั่งพิเศษกันทุกคน สุดท้ายเราทั้งสองคนก็สั่งเพิ่มอีกชาม
จบจากร้านน้ำเงี้ยวป้าสุข มาต่อกันในส่วนของหวานกันบ้าง ร้าน “ชีวิตธรรมดา” หลายคนเห็นราคาแล้วแอบคิดว่า “ชีวิตธรรมดาแต่ราคาไม่ธรรมดา” สำหรับเรากลับมองว่า ก็สมเหตุสมผลกับราคา อยู่ในระดับราคาที่รับได้
เมื่อพบกับบรรยากาศของสถานที่ ความอร่อยของขนมและกาแฟ บริการของบริกรที่ถูกเทรนด์มาอย่างดีพอสมควร ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าประหนึ่งญาติมิตร และเอาใจใส่ลูกค้าทุกคนอย่างเป็นกันเอง และที่เด็ดที่สุดคือ มีดนตรีสด 1 วงเล่นให้ฟังอย่างไพเราะที่จะขับกล่อม และทำให้การจิบชากาแฟยามบ่ายคล้อยของคุณมีความสุนทรีมากขึ้น
หลังจากนั่งเพลินอยู่นาน เราก็เริ่มเดินทางต่อไปที่ไร่ชาอีกไร่หนึ่ง ตั้งอยู่ทางเหนือของอำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งก็คืออำเภอแม่จัน มีชื่อว่า “ไร่ชาฉุยฟง” อาจเรียกเป็นจุดนัดพบที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย มาแวะถ่ายรูป แวะชิมชา ชิมขนม และซื้อของฝากในหมวดหมู่ของชาสำเร็จรูปต่างๆกันอย่างสนุกสนาน
ภูมิประเทศแถวๆนี้มีลักษณะเป็นม่อนเล็กๆ สลับสับหว่างไปมามากมาย (ม่อนหมายถึงเนินเขา หรือภูเขาลูกเล็กๆ) ความพิเศษของไร่นี้ คือเป็นไร่ชา ที่มีความเป็นไร่ชา อธิบายโดยง่ายคือ ชาที่ปลูกมีหลายประเภท มีจุดบริการนักท่องเที่ยวที่เป็นร้านชา ร้านขนมที่ทำมาจากชาที่เขาปลูก ร้านขายผลิตภัณฑ์ที่มาจากชามากมาย เรียกได้ว่า เต็มไปด้วย ชา ในทุกๆ พื้นที่
สถานที่ทำได้สวย อยู่บนจุดที่สามารถมองเห็นไร่ได้โดยรอบ และมีความทันสมัย มีดาดฟ้าให้ไปยืนรับลม แม้วันนั้นจะมีฝนบ้างบางจังหวะ เมฆจึงดูมีโวลุ่มเป็นพิเศษ ท้องฟ้ามีเท็กเจอร์ ไม่ใสเคลีย แต่ก็ถือว่าเป็นสิ่งดี ทำให้อากาศดีและสดชื่น ที่สำคัญในมุมมองของการถ่ายรูปแล้ว จะดูดีกว่าฟ้าขาวอย่างที่เคยเป็น
เมื่อตะวันเริ่มคล้อย เราก็มุ่งหน้าต่อกลับเข้าเมือง ไปถนนคนเดิน ไปหาของชิคๆ ในเมืองกินกัน แม้ตอนเย็นจะมีปอยฝนโปรยปรายมานิดหน่อย ทำให้ร้านค้าจำนวน 15% หายไป แต่ในส่วนปลายของถนนนั้น ก็ยังมีร้านค้าจำนวนไม่น้อยตั้งหน้าตั้งตาขายของกันต่อไป และเมื่อฝนจากไป ความคึกคักนั้นก็กลับมาอย่างรวดเร็ว เพลิดเพลินชิมไป ถ่ายไปกับขนมที่ได้กันมา 3-4 อย่าง
ยำข้าวปุ้น
คือขนมจีนเอามายำใส่ปลากรอบและผักเคียงจำนวนหนึ่ง มีน้ำปลาร้าด้วย เข้าใจว่าขอเป็นใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่เราใส่ เพื่อเพิ่มรสความอร่อยครับ รสชาติกำลังดี ครบรส
ข้าวหนุกงา
คือของทานเล่น เป็นข้าวเหนียวบดกับงา แล้วเอามาปิ้ง หอมงา และมีความหนุบหนับของข้าวเหนียว
ยำข้าวแรมฟืนทอด
คือถั่วลันเตาบดแล้วเอามาทอด อร่อยดีครับ กรอบๆหวานเปรี้ยวๆเผ็ดๆเค็มๆ ครบรส
หมี่ยำ
ที่เชียงใหม่ก็มี แต่ของร้านนี้ให้เครื่องเยอะมาก รสชาติจะเค็ม เผ็ด เปรี้ยว
พอได้ของกินครบ ก็ต้องเดินหาที่นั่งกิน ขณะเดินหาไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่ไกลกันนั้น แอบเห็นรำวง วงใหญ่ อยู่ที่หน้าเวทีกิจกรรมภายในถนนคนเดิน เข้าใจว่าเขาเต้นกันเป็นปกติอยู่แล้ว ดูๆไปแล้วก็สนุกดี แอบเผลอโยกตามด้วยเล็กๆ
และสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ก่อนเลี้ยวเข้าตลาด เราเห็นร้านนมในตำนาน จึงหมายมั่นปั้นมือกับเพื่อนว่าก่อนกลับต้องแวะดื่มนมเสียหน่อย นั่นก็คือนมร้านพ่อค้าแซ่บที่เคยออกรายการท่องเที่ยวชื่อดัง ขอบอกแซ่บจริงนะเอ้อ
ผ่านมาหนึ่งวันของวันนี้ สนุกมากมายหลากหลายอรรถรส แต่ก็เหนื่อยมากเช่นกัน ติดตามต่อในตอนหน้ากับร้านกาแฟด้วยนะครับ รอติดตามเรื่องราวดีๆ พร้อมภาพสวยที่อยากสร้างรอยยิ้มให้คุณไปพร้อมๆ กัน
เรื่อง และ ภาพ: Wara Suttiwan