5 แบรนด์ชุดทำงานสำหรับผู้ชาย หาซื้อง่าย มีสไตล์ ไม่ดูแก่

5 แบรนด์ ชุดทำงานสำหรับผู้ชาย หาซื้อง่าย มีสไตล์ ไม่ดูแก่

สำหรับหนุ่มๆ Fav Forward ที่กำลังย่างเข้าสู่วัยทำงาน คงเคยจินตนาการว่าวัยทำงานเป็นวัยที่ดูแก่ เคร่งเครียด และโตเกินอายุ แต่ไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปเพราะวันนี้เรามี 5 แบรนด์ ชุดทำงานสำหรับผู้ชาย ที่ช่วยเสริมความมีสไตล์แต่สามารถใส่ไปทำงานได้ทุกวัน จะมีแบรนด์อะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ

UNIQLO

ด้วยความที่ตัวแบรนด์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้เสื้อผ้าของ UNIQLO ส่วนใหญ่มีสไตล์และรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยภายใต้ปรัชญา Lifewear ที่ตอบโจทย์การสวมใส่ในทุกไลฟ์สไตล์ของช่วงชีวิตและสะท้อนความเป็น Minimalistic แบบชาวญี่ปุ่น ยิ่งโดยเฉพาะเสื้อผ้าในกลุ่มชุดทำงานที่ทาง UNIQLO ได้ออกแบบเสื้อผ้าแต่ละชิ้นให้สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กันเพื่อเกิดลุคใหม่ๆ ที่สามารถใส่ไปทำงาน พบปะสังสรรค์ หรือทำกิจกรรมได้ภายในชุดเดียว

ชุดทำงานของ UNIQLO จะให้สไตล์ความเป็นมินิมอล คุมโทน สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าเพื่อให้เกิดลุคต่างๆ ได้ แต่รูปทรงและดีไซน์อาจไม่หลากหลายเท่าแบรนด์อื่น

 

H&M

หนึ่งในแบรนด์แนว Fast-Fashion ที่ยกระดับกลายเป็น Global Brand ไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ H&M แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติสวีเดนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 71 ปี โดยจุดเด่นของแบรนด์นี้อยู่ที่รูปลักษณ์ที่มีความทันสมัย มีสไตล์ ครอบคลุมความต้องการของทุกเพศทุกวัย ภายใต้ปรัชญา Motto 3 คำอย่าง Fashion (ดีไซน์ทันสมัยตามกระแส) Quality (คุณภาพในการตัดเย็บ) และ Best Price (ราคาเหมาะสมเข้าถึงได้ง่าย) นอกจากนี้ในบางซีซั่น H&M ยังมีการร่วม Collaboration กับดีไซน์เนอร์ชื่อดังซึ่งจะทำให้เราได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายของ High Fashion ในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย

ชุดทำงานของ H&M จะให้กลิ่นอายของความเป็นแคชชวล มีแฟชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยเฉพาะรูปแบบของกางเกงแสลคและเสื้อเชิ้ตที่สามารถซื้อตามเพื่อครีเอทลุคหนุ่มแฟชั่นรักการทำงานได้เป็นอย่างดี

ZARA

ZARA ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์แนว Fast-Fashion ที่มีรายได้แต่ละปีมากมายมหาศาล โดยเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จจนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ Fast-Fashion อันดับหนึ่งของโลกก็คือ “การเชื่อมโยงถึงกัน” ระหว่างแผนกออกแบบ โรงงานผลิต และหน้าร้านวางจำหน่าย ที่ทาง ZARA เป็นเจ้าของทั้ง 3 อย่างนี้ด้วยตนเอง จึงทำให้แบรนด์สามารถออกแบบสินค้าตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคและนำออกวางจำหน่ายได้อย่างรวดเร็ว (บางคอลเลคชั่นใช้เวลาออกแบบ ผลิต และเริ่มวางจำหน่ายในระยะเวลา 2-3 อาทิตย์เท่านั้น)

สำหรับเสื้อผ้าทำงานของ ZARA จะมีหลากหลายรูปดีไซน์ให้เลือก ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจและเทรนด์แฟชั่นมาจากกระแสบนรันเวย์ที่เป็นการประยุกต์ให้ใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน

MARK & SPENCER

MARK & SPENCER คือแบรนด์จากเมืองผู้ดีที่ยึดปรัชญา Sustainable (ความยั่งยืน) ในการลดผลกระทบจากสินค้าเชิงอุตสาหกรรมพร้อมสร้างคุณค่าทางบวกในกระบวนการธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม รวมไปถึงบุคคลต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ เช่น การจัดซื้อฝ้ายจากแหล่งปลูกที่มีความยั่งยืน การลดใช้สารเคมีรวมไปถึงหาทางรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เพื่อให้เกิดขยะน้อยที่สุด ภายใต้ประโยชน์ใช้สอย คุณภาพ และดีไซน์

ด้วยความที่เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษจึงทำให้เสื้อผ้าทำงานของ MARK & SPENCER จะมีกลิ่นอายของความเป็นหนุ่มเมืองผู้ดี มีโทนสีที่สุภาพเหมาะแก่งานที่เน้นความเป็นทางการ สุภาพ และต้องการบุคลิกภาพที่ดี

TOPSHOP

TOPSHOP คืออีกหนึ่งแบรนด์แนว High Street กึ่ง Fast-Fashion จากประเทศอังกฤษ โดยทางแบรนด์จะมุ่งเน้นลูกค้าหนุ่มสาวที่ให้ความสนใจกับการแต่งตัว แฟชั่น และมักจะมีการใช้ดารา เซเลป คนดัง เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของแบรนด์อยู่เสมอ

สำหรับเสื้อผ้าผู้ชายของ TOPSHOP จะถูกแยกออกมาเป็นเซคชั่น TOPMAN ที่มีตั้งแต่เสื้อผ้าสไตล์ลำลองไปจนถึงชุดทำงานที่ให้กลิ่นอายความเป็นแฟชั่นและมีสไตล์แก่ผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี

เรื่องโดย: Nomad609

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.