ผู้ชายมีกลิ่นเต่าไม่ใช่เรื่องตลก เพราะนอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจแล้ว อาจทำให้สาวเมินและกลายเป็นจุดด้อยไปเลยก็ได้ ดังนั้นเรื่องกลิ่นต้องขจัด วันนี้เราจึงมีเทคนิคขจัดกลิ่นเต่าแบบไม่ยุ่งยากมาฝาก
วิธีแรกเป็นวิธีง่ายๆ ที่เพียงเราเดินไปซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวก เลือกหาผลิตภัณฑ์ระดับกลิ่นสำหรับผู้ชาย อาจจะเป็นโรลออนหรือสเปรย์ดับกลิ่นก็ได้ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักใช้ในตอนเช้าหลังอาบน้ำเสร็จ
ส่วนผลิตภัณฑ์จะเลือกตัวไหนดีนั้น แนะนำให้เลือกที่เป็นสูตรปราศจากอลูมินัม ซึ่งจะช่วยกำจัดกลิ่นกายได้ดี แต่สำหรับหนุ่มๆ ที่มีอาการแพ้ เช่น เกิดผดแดง อาการคัน แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นที่ปราศจากน้ำหอมอาจช่วยได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ แนะนำให้อ่านรีวิวจากเว็บบอร์ดต่างๆ อาจช่วยตัดสินใจได้
อีกวิธีสำหรับหนุ่มๆ ที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมา แนะนำให้หันมาใช้สารส้ม หรือปูนแดง หรือเบคกิ้งโซดาดู เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นวิธีสุดเบสิกที่ช่วยขจัดกลิ่นเต่า
หากเลือกใช้ ‘สารส้ม’ วิธีการคือให้ใช้สารส้มทารักแร้หลังอาบน้ำ โดยต้องถูทาในขณะที่รักแร้ยังเปียกและต้องใช้ทุกครั้ง แต่หากเลือกใช้ ‘ปูนแดง’ วิธีการคือใช้ปูนแดงผสมกับน้ำ และทารักแร้หลังอาบน้ำ พอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก แต่ไม่ควรใช้ปูนแดงมากเกินไป เพราะปูนแดงจะกัดผิวได้ ส่วนเบคกิ้งโซดามีวิธีการใช้คล้ายปูนแดงคือ นำเบคกิ้งโซดาไปผสมกับน้ำเล็กน้อยให้ข้น แล้วทารักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก่อนจะล้างออก
ส่วนการหาซื้อสารเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด อย่างสารส้มเดี๋ยวนี้ก็มีรูปแบบผลิตขจัดกลิ่นเต่าวางจำหน่ายมากมาย ทั้งร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย
การอาบน้ำให้สะอาดก็ช่วยลดกลิ่นเต่าได้ แต่จะดีกว่านี้ถ้าเลือกใช้ ‘สบู่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย’ หรือ สบู่ผสมยาฆ่าเชื้อ จะช่วยขจัดกลิ่นได้ดียิ่งขึ้น เน้นฟอกบริเวณรักแร้ เพื่อให้สบู่ทำลายแบคทีเรียและเชื่อโรคบนผิวหนัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นเต่า
ดับกลิ่นจากภายนอกแล้ว ก็ต้องมาดับสาเหตุของกลิ่นจากภายในด้วย โดยมีวิตามินหลายตัวมีคุณสมบัติช่วยต้านกลิ่นเต่าและกลิ่นตัวได้ อาทิ วิตามินบี 1 ปริมาณ 50 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้งไปในระยะแรก เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ให้ลดลงเหลือปริมาณ 20-30 มิลลิกรัม วันละครั้ง ติดต่อกันประมาณหนึ่งปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาเภสัชกรด้วยจะดีกว่า หรือทานวิตามินบีคอมเพล็กซ์ 25,000 I.U. หนึ่งวันต่อสัปดาห์ ฯลฯ
อาหารบางประเภทส่งผลต่อการเกิดกลิ่นเต่าได้เหมือนกัน ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงหรือกินให้น้อยลง อาทิ อาหารประเภทที่ใส่เครื่องเทศเยอะๆ หรืออาหารที่มีกลิ่นแรงอย่างแกงกะหรี่ กุยช่าย เป็นต้น รวมทั้งเลี่ยงอาหารที่มีสารโคลีนสูง ควรรับประทานอย่างพอเหมาะ เช่น กระเทียม หัวหอม เต้าเจี้ยว ผักชี แกงกะหรี่ แฮม ปลาทูน่า ฯลฯ
รวมถึงอาหารรสจัดต่างๆ ที่เราควรลดลง หรือลดความจัดจ้านของอาหารลง เพราะอาหารรสจัดจะทำให้ต่อมเหงื่อขับไขมันออกมากขึ้น ซึ่งนั่นคือสาเหตุของการเกิดกลิ่นเต่านั่นเอง แถมยังทำให้เกิดสารตกค้างในลำไส้ ส่งผลให้เหงื่อมีกลิ่นเฉพาะตัวได้อีกด้วย
การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าผิดก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหมักหมมจนเกิดเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ยิ่งหากคุณมีกลิ่นตัวค่อนข้างแรง แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ไม่รัดรึงช่วงรักแร้มากเกินไป เพราะเสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวจะทำให้การระบายอากาศได้ไม่ดี จนหมักหมมเกิดกลิ่นเต่าได้ นอกจากนี้แนะนำให้สวมเสื้อผ้าเส้นใยจากธรรมชาติอย่างคอตตอนและลินิน จะช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าใยสังเคราะห์