สุภาพบุรุษหลายคนคงคุณตากันมาบ้างกับคำว่า Smart Casual เมื่อต้องไปงานเลี้ยงสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน, งานเลี้ยงลูกค้า หรือแม้แต่งานของบริษัทและอื่น ๆ บางคนเห็นแล้วก็มั่นใจ แต่พอวันงานจริงกลับรู้สึกว่าตัวเองดูแปลกแยกกับคนอื่นในงาน…ดังนั้นเรามาไขข้อข้องใจการแต่งตัวสไตล์นี้กันว่าต้องประมาณไหนถึงจะดูลำลองแบบพอดี
สันนิษฐานกันว่าแฟชั่นสไตล์ Smart Casual ได้รับความนิยมในช่วงปี ค.ศ.1980 แม้ว่าที่จริงแล้วคำ ๆ นี้จะเริ่มบัญญัติใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1924 ในหนังสือพิมพ์ The Davenport Democrat and Leader ก็ตาม โดยเป็นการสื่อให้เห็นถึงการแตกแขนงจากการแต่งกายแบบทางการหรือ Smart ในแบบเก่า ด้วยการเพิ่มคำว่า Casual ที่แปลว่า ลำลอง, สบาย ๆ เข้าไป ซึ่งนั่นก็คือผู้สวมใส่ไม่จำเป็นต้องเน้นความเนี้ยบ ไม่จำเป็นต้องกลัดกระดุมทุกเม็ด หรือแม้แต่เอาชายเสื้อใส่ไว้ในกางเกงโดยในช่วงแรกคำนี้ใช้เพื่อรองรับการแต่งกายในวันทำงานออฟฟิศตามปกติ ไปจนถึงธุรกิจที่ไม่เน้นระเบียบแบบแผน เช่น ร้านอาหาร ร้านขายของ เป็นต้น
พยายามควบคุมสัดส่วนระหว่างเสื้อผ้าที่ดูเป็นทางการและเสื้อผ้าที่ดูลำลองให้สมดุลกัน การแต่งแบบใดแบบหนึ่งเยอะเกินไปจะทำให้คุณโดดจากบรรยากาศรอบ ๆ และในบางคนอาจทำให้เสียความมั่นใจได้ ดังนั้นถ้ามีเสื้อสูทเป็นทางการและกางเกงสุดเนี้ยบแล้ว ลองใส่เสื้อตัวในแบบสบาย ๆ และรองเท้าหนังกลับดูก็เรียบร้อย
การผสมสานโทนสีทำให้ลุคโดยรวมของคุณดูไม่จงใจหรือคร่ำเคร่งจนเกินไป สีสันที่พอเหมาะจะอยู่ในช่วง 2-5 สี ถ้าเกินกว่านั้นจะทำให้คุณหลุดกรอบจากคำว่า Smart Casual ไปสู่ Street Style ดังนั้นตองดูให้ดี อีกวิธีคือเมื่อต้องไปงานที่ไม่กำหนดธีมสีตายตัว ลองดูบัตรเชิญที่ส่งมาว่ามีสีอะไร ส่วนใหญ่ธีมงานจะเป็นไปตามสีของบัตรเชิญ
ใส่สเวตเตอร์กับกางเกงสแล็ค พร้อมรองเท้าสไตล์หนัง…ได้ลุคสุด แบบนี้แล้วไม่ควรตายตอนจบด้วยการทำผมเซอร์สุดจนดูเหมือนเพิ่งตื่นนอนเด็ดขาด ขอย้อนกลับไปข้อ 1 ว่า 50:50 นับเฉพาะชุดเท่านั้น
ถ้าไม่รู้จะมิกซ์แอนด์แมทช์สไตล์ Samrt Casual ยังไง แนะนำว่าพกเบลเซอร์ตัวเก่งไว้ซักตัวยังไงก็ได้หยิบมาใช้แล้วรอดแน่นอน จะจับคู่กับกางเกงสแลคหรือกางเกงยีนส์ ก็ดูสภานที่จัดงานประกอบ ถ้าเป็นงาน Out Door คุณสามารถเพิ่มสัดส่วนความลำลองเป็น 40:60 ได้ แต่ถ้าเป็นงาน In Door ไม่ควรเสี่ยงจับคู่ยีนส์เด็ดขาดไม่ว่ายีนส์ตัวนั้นจะราคาสูงแค่ไหนก็ตาม
แม้เทรนด์ Oversize จะมีให้เห็นบนรันเวย์อย่างต่อเนื่อง แต่การจะนำมาใช้ในงานในชีวิตจริงต้องดูลุคโดยรวมของตนเองประกอบด้วย นั่นเพราะมันมีความก้ำกึ่งระหว่างความเป็น Smart Casual และสตรีทสไตล์อยู่ ดังนั้นทางที่ดีเลือกเสื้อผ้าแบบ Perfect Fit หรือพอดีตัวไว้ก่อนดีที่สุด
และสิ่งสำคัญที่ลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ‘จงเป็นตัวของตัวเอง’ เข้าไว้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถ Keep Looks ในแบบ Smart Casual ได้แล้ว ไม่ว่างานไหน ๆ ก็มั่นใจ อย่าลืมนำวิธีดี ๆ ที่เราแนะนำไปปรับใช้เพื่อที่จะได้แต่งตัวถูกต้องเหมาะสม ใครเห็นก็ต้องชมแน่นอนครับ
ที่มา :www.gentlemansgazette.com, www.fashionbeans.com
ภาพ :pixabay.com, www.pinterest.com