5 ข้อทำตามนี้….ถ้าไม่อยากโดนยี้เป็นหนุ่มฟันเหลือง

5 ข้อทำตามนี้ถ้าไม่อยากโดนยี้เป็นหนุ่ม ฟันเหลือง

เพราะรอยยิ้มบนใบหน้าเปรียบเสมือนหน้าต่างบานแรกในการสนทนา จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถยิ้มได้เต็มปากโดยไม่ต้องกังวลเรื่อง ฟันเหลือง สำหรับหนุ่มๆ ที่ละเลยการดูแลตัวเอง วันนี้ Fav Forward มีเคล็ดลับทำให้ฟันของคุณกลับมาขาวสดใสได้อีกครั้งครับ

1.มองหาต้นเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง

นอกจากกรรมพันธุ์แล้ว ปัจจัยภายนอกที่ส่งเสริมให้ฟันคู่โปรดของเรากลายเป็นสีเหลืองได้ล้วนมาจากพฤติกรรมในการบริโภคและใช้ชีวิตประจำวันของผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการดื่มชา กาแฟ และสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ ถ้าต้องการมีฟันขาวกระจ่างใสควรหลีกเลี่ยงหรือบ้วนปากหลังจากรับประทานของพวกนี้จะดีที่สุด

2.หมั่นดูแลสุขภาพช่องปาก

การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จะช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียภายในช่องปากที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังเช่น เหงือกอักเสบ กลิ่นปาก รวมไปถึงสีฟันที่เหลืองคล้ำจากคราบสะสม โดยอาจเลือกยาสีฟันที่มีคุณสมบัติเน้นให้ฟันขาวร่วมด้วยก็ย่อมได้

3.พบทันตแพทย์เป็นประจำทุกปี

การพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปี 2 ครั้งจะช่วยให้เราได้รับรู้ถึงปัญหาสุขภาพช่องปากและแก้ไขได้ทันท่วงที นอกจากนี้การขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนจะช่วยขจัดคราบอาหารและคราบต่างๆ ที่เกาะสะสมรวมไปถึงชั้นหินปูนที่อยู่บนชั้นเคลือบฟัน ซึ่งถ้าหากเราดูแลฟันเป็นประจำแบบนี้แล้ว ความขาวกระจ่างใสย่อมอยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอนครับ

4.รับประทานผักผลไม้เป็นประจำ

รู้หรือไม่ว่าผักผลไม้บางชนิดก็สามารถทำให้ฟันขาวได้โดยไม่รู้ตัว เช่น การรับประทานแครอทหรือแอปเปิ้ลแบบสดๆ ซึ่งขณะที่กัดผลไม้เหล่านี้จะทำให้ฟันของเราได้เสียดสีเสมือนการแปรงฟันจากวัสดุธรรมชาติ นอกจากนี้แครอทและแอปเปิ้ลยังมีฤทธิ์ในการกระตุ้นน้ำลายซึ่งเปรียบเสมือนน้ำยาทำความสะอาดช่องปากตามธรรมชาติอีกด้วย

5.ฟอกสีฟัน

นอกจากการฟอกสีฟันด้วยเทคนิคการทางแพทย์แล้ว เรายังประยุกต์ใช้วัสดุที่มีอยู่ในครัวเพื่อฟอกสีฟันให้ขาวสะอาดได้ด้วยตัวเองอย่างการนำมะนาวมาผสมกับเบกกิ้งโซดาได้อีกด้วย โดยมะนาวหรือเลมอนจะมีฤทธิ์เป็นกรดช่วยขจัดคราบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ยิ่งนำมาผสมกับเบกกิ้งโซดาแล้วพอกทิ้งไว้ราวๆ 2-3 นาทีก่อนแปรงออกก็ยิ่งช่วยให้สีฟันกลับมาขาวได้อย่างเป็นธรรมชาติ (แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากความเป็นกรด-ด่างของน้ำมะนาวและเบกกิ้งโซดาอาจส่งผลกระทบต่อผิวและเนื้อฟันได้ถ้าไม่ระวัง)


ข้อมูลประกอบ: www.sukkaphap-d.com

เรื่องโดย: Nomad609

ภาพประกอบ: Unsplash.com

© COPYRIGHT 2024 AMARIN PRINTING AND PUBLISHING PUBLIC COMPANY LIMITED.