เริ่มจากการใช้ทิชชูเปียกเช็ดตามร่างกาย โดยเฉพาะรักแร้และซอกคอที่เหงื่อออกเยอะ การใช้ทิชชูเปียกเช็ดตามเนื้อตัวก็เหมือนกับการได้อาบน้ำ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดในเบื้องต้น ยิ่งเราเป็นคนเหงื่อออกเยอะ อาจเลือกใช้ทิชชูเปียกที่ผสมแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มความรู้สึกสะอาดให้ร่างกาย ทางทีดีแนะนำให้ออกจากออฟฟิศก่อนเวลานัดสักเล็กน้อย เพื่อให้ตัวเองมีเวลาแวะเข้าห้องน้ำไปถอดเสื้อเช็ดเนื้อเช็ดตัวก่อน
การใช้ทิชชูเปียกในการทำความสะอาดถือเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก เพราะหากเราฉีดน้ำหอมหรือโรลออนทั้งๆ ที่เนื้อตัวยังเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ จะยิ่งทำให้ร่างกายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์แรงขึ้น ดังนั้นการขจัดกลิ่นในเบื้องต้นจึงเป็นการเซฟตัวเองที่ดีที่สุด
หลังจากเช็ดตัวด้วยทิชชูเปียกจนสะอาดแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเพิ่มกลิ่นที่ทำให้ร่างกายสดชื่นด้วยโรลออนหรือน้ำหอมที่พกติดตัว แต่ระวังเรื่องการเลือกกลิ่นของน้ำหอมและโรลออนสักเล็กน้อย แนะนำให้เลือกกลิ่นที่ไม่ฉุน แต่เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาด ชวนสดชื่นแทน
การใช้โรลออนหรือฉีดน้ำหอม ควรทำหลังจากใช้ทิชชูทำความสะอาดร่างกายแล้วเท่านั้น ไม่แนะนำให้ฉีดน้ำหอมหรือทาโรลออนขณะที่ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ เพราะน้ำหอมหรือโรลออนบางกลิ่นเมื่อไปผสมกับกลิ่นเหงื่อจะทำให้ร่างกายมีกลิ่นแรงขึ้น แต่ถ้าไม่มีโรลออนและน้ำหอมจะแวะซื้อแป้งเด็กมาโรยตัวแก้ขัดไปก่อนก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน
เสื้อที่เคยเปียกเหงื่อ แม้จะโดนลมหรือแอร์จนแห้ง แต่กลิ่นก็ยังแฝงอยู่ในใยผ้า แม้จะทำความสะอาดตัวและฉีดน้ำหอมจนตัวหอมฟุ้ง แต่ก็ไม่สามารถกลบกลิ่นเหงื่อที่แฝงอยู่ในเสื้อได้ เผลอๆ บางทีกลิ่นเหงื่อในเสื้ออาจจะผสมกับกลิ่นน้ำหอมจนเกิดเป็นกลิ่นฉุนยิ่งขึ้น ดังนั้นแนะนำให้เปลี่ยนเสื้อจะดีกว่า คุณอาจพกเสื้อยืดใส่สบายๆ ติดรถเอาไว้ หรือแวะซื้อเสื้อยืดเรียบๆ ราคาไม่แพงตามห้างสรรพสินค้าก็ได้เช่นกัน