จบปัญหากวนใจ 7 วิธีลดกลิ่นเหงื่อใต้วงแขนชายหนุ่ม
เรื่องเหงื่อใต้วงแขน ปัญหากวนใจที่เกิดบ่อยๆ กับชายหนุ่ม โดยเฉพาะอากาศเมืองไทย กับวันทำงานที่ต้องใส่เสื้อเชิ้ตเนี้ยบๆ ไม่เพียงแต่เหงื่อจะซึมใต้วงแขน บางครั้งก็มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา เรื่องเล็กๆ ที่กลายเป็นปัญหาหงุดหงิดใจจะทำอย่างไรให้ลดคราบเหงื่อเหล่านั้นได้ไปดูกันครับ
จริงๆ แล้วเรื่องเหงื่อขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล บางคนมีมากมีน้อยแตกต่างกันไป เกิดจากระบบร่างกายระบายความร้อนออกมาตามรูขุมขนจุดต่างๆ แต่ใต้วงแขนก็เป็นอีกจุดที่เกิดขึ้นประจำ
7 วิธีลดเหงื่อใต้วงแขน
- แต่งตัวตามสภาพอากาศ
แม้สภาพอากาศบ้านเราจะทำให้ง่ายต่อการเกิดเหงื่อ แต่คุณสามารถเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะกับอากาศได้ ถ้าต้องใส่เสื้อเชิ้ต ให้เลือกผ้าคอตตอนเนื้อบาง บางแบรนด์อาทิ Uniqlo หรือ Marks & Spencer มักจะออกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ สามารถช่วยระบายความร้อนได้ดี แต่อย่าลืมว่าเรื่องสไตล์ที่เหมาะสมกับคุณก็สำคัญไม่แพ้กัน
- ลดเครื่องดื่มบางชนิด
คาเฟอีนในเครื่องดื่มมีส่วนในการกระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า คาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางรวมถึงคอยกระตุ้นต่อมเหงื่อให้ทำงานด้วย นอกจากนี้กาแฟยังมีความเป็นกรดสูงซึ่งจะทำให้คุณปากแห้ง เชื้อแบคทีเรียก็จะเจริญเติบโตโดยการกินสารประกอบซัลเฟอร์และเป็นสาเหตุให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น อาจลองหันมาดื่มชาร้อน หรือเครื่องดื่มที่มี L-theanine อย่างชาเขียว ก็อาจช่วยลดอัตราการเกิดเหงื่อได้ครับ
- เครื่องเทศตัวการเรื่องกลิ่น
ลองสังเกตง่ายๆ ว่าประเทศที่นิยมทานเครื่องเทศส่วนใหญ่ มักจะมีกลิ่นเครื่องเทศติดตัวมาด้วย ฉะนั้นการลดการทานวัตถุดิบประเภทผงกะหรี่หรืออาหารที่มีรสจัดจ้าน เพราะจะยิ่งเพิ่มระดับเมตาบอลิซึ่มในร่างกาย ทำให้ขับเหงื่อมามากกว่าปกติ ราวกับวิ่ง 10 กิโลเมตร จากความเป็นจริงที่คุณเดินไม่กี่กิโลเมตรเท่านั้น
- เจลแต่งผมก็มีส่วน
เจลแต่งผมชนิดค่อนข้างเหนียว โดยเฉพาะชนิดน้ำมันหรือโพเมดอาจทำให้ผมเซ็ตสวยงามดูไม่กระด้างก็จริง แต่จะมีความมันเป็นอย่างมาก อาจทำให้รำคาญได้ เวลาที่ต้องออกกิจกรรมกลางแจ้งยิ่งเมื่อมีเหงื่อออกตามหนังศีรษะ ก็ยิ่งเพิ่มความมันให้หนังศีรษะและใบหน้าเข้าไปใหญ่เพราะความมันอาจจะผสมกับเหงี่อแล้วไหลมาที่ใบหน้าเพราะคุณสมบัติของน้ำมันจะไม่มีการแข็งตัว หรือแห้งไปง่ายๆ ลองเปลี่ยนเป็นชนิดครีมหรือแว็กซ์ชนิดแห้งแทนดูครับ และอย่าลืมควบคุมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ใช้ด้วย อาจส่งผลเพิ่มความมันบนใบหน้าได้
- ใช้ตัวช่วยควบคุมปริมาณเหงื่อใต้วงแขน
โรลออนบางประเภทที่มีคุณสมบัติระงับกลิ่นกาย อาจส่งผลข้างเคียงในการปิดกั้นระบายเหงื่อที่รูขุมขนใต้วงแขน อาจลองหลีกเลี่ยงมาใช้ชนิดสเปรย์แทน เพราะจะมีคุณสมบัติเบาบางกว่าและควบคุมกลิ่นและการเกิดเหงื่อได้ดีไม่แพ้กัน
- ตัดแต่งขนใต้วงแขน
โดยปกติแล้วร่างกายแต่ละคนจะสร้างขนบนตัวมามากน้อยแตกต่างกัน ยิ่งมีมากอาจสร้างปัญหาในเรื่องกลิ่น แต่ขนก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายต้องทำลายให้เกลี้ยง เพราะมันยังช่วยคัดกรองสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปสร้างแบคทีเรียในร่างกายได้ในบางจุด แต่สำหรับใต้วงแขนอาจตัดหรือทำให้ลดน้อยลง เพราะเป็นจุดที่สร้างความหมักหมมเรื่องแบคทีเรียได้ง่าย จากนั้นทาแป้งบางชนิดที่บริเวณใต้วงแขนแทนที่การใช้สเปรย์ระงับกลิ่น ก็ช่วยได้เช่นกัน สามารถช่วยลดเหงื่อออกบริเวณใต้วงแขนได้
- ใช้วิธีทางการแพทย์เข้าช่วย
สุดท้ายการโบท็อกซ์ใช้กับใต้วงแขนได้เช่นกัน ช่วยลดการเกิดเหงื่อได้ เป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด โดยการฉีดโบท็อกซ์จะไปช่วยยับยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาเพื่อควบคุมระบบประสาทการหลั่งของเหงื่อ จึงช่วยลดเหงื่อได้มากถึง 80% และจะเริ่มเห็นหลังการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่การฉีดต่อครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (ครั้งละประมาณ 5 พัน ถึง 2 หมื่นบาท) และฤทธิ์ของยาสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-8 เดือนเท่านั้น จึงต้องกลับมาฉีดซ้ำใหม่ คุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายครั้งเพื่อควบคุมพื้นที่เหงื่อและกลิ่นใต้วงแขนให้ลดน้อยลง ซึ่งการแก้ไขนี้อาจจะเป็นวิธีสุดท้ายที่คุณเลือกใช้ เพราะต้องรองรับเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมาเช่นกัน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อแลกกับใต้วงแขนที่แห้งและเบาสบาย