10 คำถามโลกแตกในที่ทำงาน กับ 10 คำตอบพิชิตชีวิตมนุษย์เงินเดือน

‘เคล็ดลับพิชิตการทำงาน ความรัก และชีวิต เพื่อเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ต้องทนทำงานหามรุ่งหามค่ำ’ นี่คือคำโปรยบนปกหนังสือ “วิธีเอาตัวรอดจากที่ทำงานที่สุดแสนจะน่าเบื่อหน่าย”

เพียงคำโปรยและชื่อเล่มก็มีแรงดึงดูดให้เราหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาจากชั้นวางหนังสือในร้านได้แล้ว แต่เมื่อเราได้เปิดอ่านเนื้อหาข้างใน หนังสือเล่มนี้ก็ยิ่งตอกย้ำให้เราหันกลับมาพิจารณาปัญหาโลกแตกในที่ทำงานที่เราต้องเผชิญทุกวัน พร้อมเร่งหาคำตอบและทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

questions-worker_07

แม้ว่าหลายคำตอบที่ผู้เขียน “ชิงซังฮุน” แนะนำนั้น มันช่างเหลือรับก็ตาม!! แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำถามหลายข้อในหนังสือเล่มนี้คือปัญหาที่จี้ใจดำและเรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ การได้คำตอบแบบกำปั้นทุบดินของชิงซังฮุนจึงกลายเป็นทางออกที่ดีที่สุดไปเลย แม้ว่าคำตอบเหล่านั้นจะไม่ใช่คำตอบแบบสำเร็จก็ตาม

สำนักพิมพ์ Short Cut ได้นิยามหนังสือและผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ไว้ว่า “วิธีเอาตัวรอดจากที่ทำงานที่สุดแสนจะน่าเบื่อหน่าย เป็นผลงานของชิงซังฮุน นักเขียนบทตลกและวิทยากรด้านอารมณ์ขันแห่งประเทศเกาหลีที่มีประสบการณ์ยาวนานถึง 23 ปี เขาถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากการให้คำปรึกษาเรื่องความเครียดแก่พนักงานจำนวนมากในองค์กรด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย สนุก จริงใจ อ่านไปยิ้มไป และนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง”

questions-worker_04

หากคุณพร้อมแล้ว เชิญไปพบกับ 10 คำถามของปัญหาโลกแตกในที่ทำงาน พร้อมกับ 10 คำตอบที่ต้องทำให้คุณพยักหน้าเห็นด้วยกันเลย!

Q1. ทำไมไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้ทีละมากๆ ล่ะครับ
A1. จงอย่าคาดหวังว่าบริษัทจะขึ้นเงินเดือนให้คุณมากมาย คุณต่างหากที่ควรเพิ่มศักยภาพของตัวเอง


Q2. ควรรับแอดเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนในโลกโซเซียลรีเปล่าครับ
A2. กรุณาปิดเฟซบุ๊กเดี๋ยวนี้เลยครับ


Q3. เวลามาทำงานสาย ควรอ้างเรื่องไหนถึงจะดีที่สุดครับ
A3. Honesty is the best policy. ความซื่อสัตย์เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ดังนั้นถ้าคุณมาสาย การพูดขอโทษด้วยรอยยิ้มจะทำให้สถานการณ์ดีกว่าการขอโทษไปตามมารยาท และการมาสายเป็นเพียงแค่ความเคยชิน รีบเปลี่ยนมาเป็นพนักงานที่ดี ขยันทำงาน เข้านอนเร็ว และตื่นเช้าน่าจะดีกว่านะครับ


Q4. ช่วงพักกลางวัน ฉันมักจะกลุ้มใจเสมอว่าจะกินอะไรดี
A4. ชีวิตคือการเลือกนะครับ เป็นการเลือกที่ไม่มีที่สิ้นสุดซะด้วย ถ้าเราเลือกดี ชีวิตก็จะดีตามที่เลือก ดังนั้นตอนนี้คุณควรคิดถึงปัญหาเรื่องความสามารถในการตัดสินใจ ความแน่แน่ของตัวเองมากกว่าเอาเวลามานั่งกลุ่มใจว่ามื้อนี้จะกินอะไรดี

คนเราต่อให้อดอาหารหนึ่งมื้อก็ไม่เสียชีวิตลงง่ายๆ ถ้าอย่างนั้นลองอดอาหารสักมื้อแล้วขบคิดถึงปัญหาเหล่านั้นดู ต่อไปในอนาคตถ้าฉันเลือกแบบนี้จะส่งผลอย่างไรต่อชีวิต การเลือกคือชีวิต หากเราสนุกไปกับการเลือกนั้น ก็จะรู้สึกถึงรสชาติของชีวิตที่แสนอร่อย

questions-worker_02

Q5. เวลาเพื่อนร่วมงานนินทาคนอื่น เราควรร่วมวงหรือแกล้งไม่สนใจดีครับ
A5. เรื่องส่วนใหญ่ที่ผู้คนนินทามักจะไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีทางเป็นความจริง 100 เปอร์เซ็นต์ได้เลย อาจมีความจริงปนอยู่บ้าง แต่ก็อดไม่ได้ที่เราจะตีไข่ใส่สีเพิ่มเติมลงไป และต่อให้เป็นความจริงการพูดถึงเรื่องเหล่านั้นก็แทบไม่มีประโยชน์เลย


Q6. หัวหน้าชอบขโมยไอเดียของฉันอยู่บ่อยๆ
A6. มี 3 ข้อด้วยกัน นั่นคือ

• ข้อแรก จงคิดว่าไอเดียของเราไม่ใช่ไอเดียของเรา เพราะยุคสมัยนี้ไม่สำคัญเลยว่าใครจะคิดไอเดียขึ้นมาได้ก่อน เพราะที่สำคัญกว่าก็คือ ใครจะลงมือทำให้มันเป็นจริงได้ก่อนกัน ดังนั้นอย่าฟูมฟายว่าใครขโมยไอเดียของคุณไปเหมือนเด็กๆ จงคิดไอเดียแปลกใหม่ออกมาทดแทน

• ข้อสอง จงออกตัวก่อน “นี่เป็นไอเดียของฉันนะคะ แต่อยากให้หัวหน้าบอกทุกคนว่าคิดขึ้นเอง ฉันไม่เสียใจเลยจริงๆ ค่ะ แต่ช่วยเลี้ยงข้าวแทนได้ไหมคะ” ถ้าลองพูดแบบนี้กับหัวหน้า คุณอาจได้รับการเลี้ยงตอบแทนไอเดียที่ถูกขโมยไป

• ข้อสาม จงบันทึกไอเดียทั้งหมดไว้ มีคำกล่าวว่าการจดบันทึกคร่าวๆ นั้นดีเสียยิ่งกว่าความทรงจำเลือนราง จงบันทึกไอเดียทั้งหมดลงในอีเมล เครื่องอัดเสียง สมุดโน้ต ฯลฯ หากงานนั้นถูกพัฒนาต่อยอด ไม่มีหลักฐานใดดีเทียบเท่าเอกสารเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมา


Q7. รู้สึกลำบากใจที่มีชีวิตเหมือนสวมหน้ากากในที่ทำงานตลอดเวลาครับ
A7. เชกสเปียร์ได้กล่าวไว้ว่า “ชีวิตคือเวทีแห่งการแสดงละคร” ผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ล้วนเป็นคนที่แสดงละครอยู่บนเวทีทั้งสิ้น ซึ่งการแสดงละคร ถ้าสามารถหลอกคนดูให้เชื่อได้ก็ถือเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม

และเมื่อต้องใส่หน้ากากอยู่แล้ว คุณก็ควรเลือกหน้ากากที่ทำให้ทุกคนเมตตา ถ้าใส่หน้ากากแห่งรอยยิ้มอยู่เสมอ ใบหน้าของเราก็จะเหมือนคนยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ถ้าใส่หน้ากากบึ้งตึง ใบหน้าของเราก็จะดูเหมือนคนโมโหอยู่ตลอดเวลาแทน

questions-worker_05

Q8. ต้องทำอย่างไรถึงจะรู้สึกสนุกกับงานที่ไม่ชอบได้ครับ
A8. ลองรักดูสิครับ ถ้าเรารักงานนั้นแล้ว ต่อให้ยากหรือลำบากเพียงใด ก็จะรู้สึกสนุกและอยากทำอยู่ดี

และการที่คุณจะรู้สึกสนุกหรือเบื่องานที่ทำ ขึ้นอยู่กับว่าคุณรักคนที่ใช้เงินที่คุณหามาหรือไม่ คนที่หาเงินได้มากๆ จะไม่ได้คำนึงถึงจุดนี้ เป้าหมายในการหาเงินของพวกเขาแตกต่างจากพวกเรา แต่เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไปยอมทำงานหาเงินมีเพียงข้อเดียว คือหาเงินเพื่อคนที่รัก ถ้าอยากทำงานสนุกก็ต้องรัก


Q9. จู่ๆ รู้สึกหดหู่ แล้วเกลียดการทำงานมากเลยค่ะ
A9. อนาคตของเราขึ้นอยู่กับความคิด อนาคตข้างหน้าของใครคนหนึ่งจึงขึ้นอยู่กับความคิดของเขา แต่สิ่งที่กำหนดความคิดอีกอย่างก็คือ ‘คำพูด’ คำพูดมีพลังมากกว่าความคิด 5 เท่า ไม่เชื่อ! คุณลองพูดสิ่งที่คิดกับเพื่อนรอบข้างดูสิครับ ‘หดหู่จัง ไม่อยากทำงานเลย’ วิธีนี้จะทำให้คุณถูกไล่ออกจากงานได้เร็วถึง 5 เท่า


Q10. ได้เงินเดือนมาก แต่ชีวิตเหมือนไม่มีคุณค่าเลย ควรย้ายงานดีกว่าไหมครับ
A10. ถ้าคุณรู้สึกไม่มีคุณค่าเมื่อทำงาน ผมคิดว่าน่าจะขาดปัจจัยไปหนึ่งข้อ ตัวคุณในตอนนี้ทำงานที่รับผิดชอบได้ดีหรือไม่ ถ้าดีแล้ว งานที่ทำก็อาจจะไม่สนุก เพราะว่าไม่สนุกก็เลยไม่อยากทำ ส่วนปัจจัยที่เหลือก็คือเงินเดือน มนุษย์ทุกคนอดทนทำงานเพื่อเงินทั้งนั้น แต่ถ้าคุณตัดสินใจลาออก จงหางานใหม่ที่มีปัจจัยครบทั้ง 3 ข้อนั่นคือ งานที่ชอบ งานที่ทำได้ดี งานที่ได้เงินเดือนสูง

questions-worker_08

หนังสือ : วิธีเอาตัวรอดจากที่ทำงานที่สุดแสนจะน่าเบื่อหน่าย
ผู้เขียน : ชิงซังฮุน
ผู้แปล : วิทิยา จันทร์พันธ์
สำนักพิมพ์ : Short Cut
ราคา : 245 บาท

keyboard_arrow_up