Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

MOVIE SHADES : Passengers เหงาเท่าอวกาศ

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES
Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

Passengers หนังฟอร์มยักษ์ที่มีทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในนั้น ภาพรวมของหนังเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความขาดๆ เกินๆ

Passengers เล่าเรื่องราวบนเส้นทางระหว่างโลกและดาวเคราะห์ Homestead II ยานอวกาศ Avalon ที่บรรจุผู้โดยสาร 5000 คนและลูกเรืออีก 238 คน กำลังเคลื่อนที่ผ่านความอ้างว้างของอวกาศ โดยผู้โดยสารทั้งหมด ถูกรักษาให้อยู่ในสภาพจำศีลใน Hybernation Pod ที่เป็นการนอนหลับยาวเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้คงเดิมไว้ ให้เพียงพอกับระยะเวลาในเดินทางที่ยาวนานถึง 120 ปี

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

ภารกิจของยาน Avalon นั้น มีเพียงจุดประสงค์เดียวนั่นก็คือการพาผู้คนทั้งหมดไปยังดาวเคราะห์ที่หมาย โดยทุกคนล้วนมีความตั้งใจเดียวกันคือการ “เริ่มต้นชีวิตใหม่” บนดาวเคราะห์ดวงนั้น ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยระบบ Auto Pilot ที่ปราศจากการควบคุมโดยนักบิน รวมไปถึงระบบอื่นๆ ที่ดูแลโดยหุ่นยนต์และระบบสมองกลต่างๆ ที่คอยจัดการทุกสิ่งทุกอย่างไว้ให้ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดสามารถไว้วางใจ และจำศีลได้ยาวๆจนกว่าจะถึงที่หมายล่วงหน้า 4 เดือน แต่แล้วก็ได้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

ด้วยอัตราส่วนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียง 1 : 5000 หรือคิดเป็น 0.02% ได้ทำให้ Hybernation Pod ของ Jim Preston (Chris Pratt) หยุดทำงาน แล้วปลุกเขาขึ้นมาก่อนเวลาถึงที่หมาย 90 ปี ทำให้ Jim ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแก้ปัญหา และหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อย เพื่อรับมือกับความอ้างว้างเดียวดายบนยานอวกาศ เพียงคนเดียว และมีแค่ Arthur (Michael Sheen) หุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ที่อยู่ในยานเป็นเพื่อนคุยเท่านั้น ด้วยความเหงาจนแทบเสียสติ ในที่สุด วันหนึ่งเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะหาเพื่อนใหม่มาอยู่ร่วมชะตาชีวิตกับเขาอีกหนึ่งคน และเธอคนนั้นก็คือ Aurora Jane (Jennifer Lawrence)

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

การพบกันของ Jim และ Aurora นั้นเปรียบเสมือนกับพรหมลิขิตของความไม่ตั้งใจ หรืออย่างน้อย Aurora ก็เข้าใจเช่นนั้น ทั้งคู่ค่อยๆ สนิทและผูกพันกัน แล้วค่อยๆ เปลี่ยนความเหงาเป็นความรัก ทั้ง 2 ใช้ชีวิตราวกับว่าในอวกาศที่กว้างใหญ่นั้นมีเพียงแค่พวกเขาแค่ 2 คน จนวันและเวลาผ่านไป แล้วก็มาถึงวัน ที่ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

ความเดียวดายในอวกาศ ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน รวมไปถึงชีวิตที่ฝากไว้กับเทคโนโลยี คือวิกฤตที่ทั้ง Jim และ Aurora ต้องฟันฝ่ามันไปให้ได้ จากการเขียนบทของ Jon Spaihts ที่เคยเขียนบทหนังอวกาศอย่าง Prometheus (2012) และหนัง Marvel อย่าง Doctor Strange (2016) ที่พยายามผสมผสานหนังรักเข้าไปในความเป็นหนังไซไฟ ซึ่งต้องยอมรับว่าทำได้ดีในส่วนของหนังไซไฟ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉาก หรือโทนอารมณ์ของความเหงาในอวกาศ แต่เมื่อมาถึงในเรื่องของความรัก เขากลับทำได้ไม่ดีอย่างที่คิด และเมื่อบทบาทของความรักของทั้ง 2 คนมีความจำเป็นที่จะต้องเข้มข้นขึ้น หนังกลับล้มเหลวทั้งในเชิงของความโรแมนติกและในเชิงของความเป็นหนังไซไฟอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้หนังเรื่องนี้มีความลงตัวเพียงแค่ครึ่งเดียว บวกกับงานกำกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ด้วยทุนสร้าง 110 ล้านดอลล่าร์เรื่องแรกของผู้กำกับ Morten Tyldum ที่เคยได้เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก The Imitation Game (2014) ภาพรวมของหนังเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความขาดๆ เกินๆ

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES

โดยรวมแล้ว Passengers ถือว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่มีผู้ร่วมทุนสร้างหลากหลายบริษัท ซึ่งมีทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่ไม่สมบูรณ์อยู่ในนั้น ข้อดีของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ 2 ดารานำ นั่นคือ Chris Pratt และ Jennifer Lawrence ที่ถือว่าแสดงบทบาทได้น่าสนใจและมีความ sexy ทั้งคู่ รวมไปถึงการออกแบบยานอวกาศ Avalon ที่เปรียบเสมือนดั่งเรือไททานิคของดวงดาว ที่มีความหรูหราและผสมผสานฉากภายในยานที่ดูคล้ายกับฉากในภาพยนตร์เรื่อง 2001 : A Space Odyssey ของ Stanley Kubrick ความสวยงามของการออกแบบ และความรู้สึกของอันตรายที่ฝากชีวิตไว้กับเทคโนโลยี ถือว่าเป็นจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังอวกาศที่ดี เพียงแต่ว่าอาจต้องการเล่าเนื้อเรื่องในส่วนของความรักให้มีรายละเอียดทางอารมณ์ยิ่งขึ้น และอาจต้องใช้เวลาให้ผู้ชมได้ละเมียดกับความสัมพันธ์ของคนสองคนมากยิ่งขึ้น เพราะเวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของคนสองคน และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเรื่องราวที่ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างช่วงเวลานั้น และนั่นคือความสุขที่เราได้พบระหว่างเส้นทางสู่ดวงดาว Homestead II

Passengers เหงาเท่าอวกาศ - MOVIE SHADES


Photo : โซนี่พิกเจอร์

keyboard_arrow_up