นวัตกรรมพิมพ์ 3 มิติ (3D Print) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่ง โดยความก้าวหน้าของการพิมพ์ 3 มิตินี้อยู่ที่การเปลี่ยน ‘วัตถุดิบที่ใช้พิมพ์’ ให้ก่อเกิดเป็นวัสดุที่นำมาใช้งานได้ และเมื่อไม่นานมานี้ เทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติก็ได้ก้าวหน้าไปอีกขึ้นด้วยการผลิต “Utah Teapot” กาน้ำชาจากผงชาสำเร็จรูปด้วยกระบวนการที่เรียกว่า Additive Manufacturing กระบวนการผลิตแบบการเติมวัตถุดิบทีละชั้นพร้อมกับการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้พิมพ์จนได้ผลงานกาน้ำชาอย่างที่เห็น ซึ่งกาน้ำชานี้เป็นผลงานของ Emerging Objects สถาบันวิจัยอิสระด้านเมกเกอร์ในซานฟรานซิสโก
สำหรับ Utah Teapot เป็นโมเดล 3 มิติรุ่นแรกๆ ของโลกที่ออกแบบโดย Martin Newell นักวิจัยด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกในปี 1975 โดย Utah Teapot ถูกใช้เป็นโมเดลในการสร้างฉาก 3 มิติในคอมพิวเตอร์แบบง่ายๆ เพื่ออ้างอิงการลงน้ำหนักแสงเงาและการสร้างวัตถุแวดล้อมอื่นๆ นอกจากกาน้ำชาแล้วยังมีถ้วยชา และช้อนชาที่ใช้ผงชาจริงๆ เป็นวัตถุดิบในการผลิตอีกด้วย โดยเฉพาะช้อนชาที่ใช้ผงชาในการผลิตในปริมาณเท่ากับ 1 ช้อนชาหรือ 5 ลูกบาศก์เซนติเมตรพอดี นี่จึงเป็นชุดกาน้ำชาจากผงชาที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติที่บอกจุดประสงค์การใช้งานของตัวเองได้อย่างแท้จริง
แต่ก่อนที่จะมาเป็นกาน้ำชาจากผงชา Utah Teapot กาน้ำชารูปทรงนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2009 โดยสตูดิโอออกแบบ Unfold เคยสร้าง Utah Teapot ในเวอร์ชั่นเซรามิกที่ชื่อว่า Utanalog โดยมีรูปทรงเดียวกันกับกาน้ำชาต้นแบบด้วยดีไซน์แผ่นสี่เหลี่ยมหน้าราบตามแบบโมเดลทรงเรขาคณิต ซึ่งวัตถุประสงค์ของ Utanalog ตามคำบอกเล่าของ Unfold กล่าวไว้ว่า Utanalog เป็นการคืนกาน้ำชาต้นแบบกลับสู่รากฐานของการเป็นภาชนะที่ใช้งานได้ ในขณะเดียวกันก็แสดงสถานะของการเป็นไอคอนในโลกดิจิทัลอีกด้วย
เทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติไม่เพียงแต่ผลิตชุดกาน้ำชาที่ผลิตจากผงชาสำเร็จรูปเท่านั้น แต่ยังมีการนำวัตถุดิบอื่นๆ มาผลิตเป็นของใช้อื่นๆ เช่นกัน อาทิ ขวดเกลือที่ผลิตจากเกลือ และแก้วกาแฟที่ผลิตจากผงกาแฟอีกด้วย
