ไฟ ฟ้า @บางกอกน้อย | จุดเริ่มต้นของอนาคต

อีกหนึ่งสถานที่ดีๆ ที่เราอยากชวนชาว Favforward ไปทำความรู้จักในวันนี้ สถานที่ที่ว่านี้ก็คือ “ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย” ศูนย์เรียนรู้แห่งใหม่ของเด็กๆ ในชุมชน เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้ว เพราะไฟ ฟ้าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ เพื่อสังคมของธนาคารทีเอ็มบี และไฟ ฟ้า บางกอกน้อยก็เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้สำหรับเยาวชนเพื่อชุมชนแห่งที่ 4 ของโครงการนั่นเอง

แล้วสถานที่แห่งนี้มีดีอย่างไร? จริงอยู่ว่าหากกล่าวถึงโครงการเพื่อสังคม หรือ CSR ของแบรนด์ต่างๆ หลายคนอาจมีทัศนคติในแง่ลบ บางคนถึงขึ้นมองว่าโครงการเพื่อสังคมเป็นเพียงโครงการสร้างภาพที่จัดขึ้นเพื่อสร้างชื่อเสียงด้านดีให้แบรนด์สินค้า แต่สำหรับโครงการไฟ ฟ้า เราอยากให้คุณผู้อ่านลบภาพโครงการเพื่อสังคมในแง่ลบของคุณออกไปก่อน เพื่อจะได้หันมามองด้านที่ดีของศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ด้วยสายตาที่ไร้อคติ

จากคำอวยพรโบราณของไทย จึงนำมาสู่แนวคิด “อยู่ เย็น เป็น ศุภ” ของไฟ ฟ้า บางกอกน้อย

อยู่ : วิถีชีวิตไทยที่ทรงคุณค่า
เย็น: ร่มเย็นสงบด้วยงานศิลปะไทย
เป็น : ตัวตนที่แสดงออกถึงความเป็นไทย
ศุภ : ความดีงามภาคภูมิใจในความเป็นไทย

“ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย” เป็นสถานที่เรียนรู้และเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กๆ ในชุมชน ทั้งการพัฒนาชุมชน ปรับเปลี่ยนสิ่งไม่ดี แทนที่ด้วยไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด “ศิลปะในการดำเนินชีวิต” (Art of Living) แบบ “เป็นไทย” โดยพุ่งเป้าไปยังน้องๆ ที่มีรายได้น้อยในชุมชนและอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั่นเอง

“ไฟ ฟ้า ใช้ศิลปะปลูกทักษะต่างๆ ให้เยาวชนเพราะ ‘ศิลปะ’ คือ ทักษะชีวิต เป็นพื้นฐานของการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนาความคิดและจิตใจ ซึ่งศิลปะที่ไฟ ฟ้า เราหมายถึงศิลปะแขนงต่างๆ อันได้แก่ ศิลปะ ร้องเพลง เต้นรำ ดนตรี กีฬา ฯลฯ รวมกันแล้วคือ Art of Living”

ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย
อุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ทางไฟ ฟ้าจะจัดเตรียมให้ โดยที่น้องๆ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 

การเสริมสร้างศักยภาพของน้องๆ ผ่านศิลปะนั้น ไม่ใช่เพียงการเปิดสอนวิชาพื้นฐาน อาทิ ภาษาอังกฤษ การขับร้อง ศิลปะป้องกันตัว ฯลฯ โดยครูอาสาเท่านั้น แต่ไฟ ฟ้ายังมี “วิชาหลัก” ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของโครงการ เพราะวิชาหลักที่ว่านี้ เป็นวิชาที่คิดหลักสูตรการเรียนการสอนตามบริบทของชุมชนโดยผู้เชี่ยวชาญ และยังเป็นหลักสูตรที่เข้มข้น เพื่อให้น้องๆ สามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้ และแน่นอนว่าน้องๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดทั้งๆ สิ้น เป็นผลให้ไฟ ฟ้าจำต้องรับเฉพาะน้องๆ ที่ครอบครัวมีรายได้น้อย ซึ่งทางศูนย์จะมีการคัดเลือกและสอบสัมภาษณ์ก่อนรับเข้าเรียน

ดังที่กล่าวไปแล้วว่าวิชาหลักของไฟ ฟ้า แต่ละแห่งจะแตกต่างกันไปตามบริบทของชุมชน สำหรับไฟ ฟ้า บางกอกน้อยนั้น วิชาหลักของที่นี่คือ “วิชาท่องเที่ยวเพื่อชุมชนยั่งยืน” เพราะพื้นที่ฝั่งธนบุรีเป็นพื้นที่ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

“วิชาหลักของที่นี่เป็นการท่องเที่ยว โดยวิชาหลักเป็นวิชาที่เข้มข้นคือ เด็กๆ มาเรียนแล้ว สามารถนำไปเป็นอาชีพต่อได้ เพราะว่าเราจะใส่หลักสูตรเข้าไปให้มันได้ทำจริง อย่างเด็กๆ ที่เลือกวิชาท่องเที่ยว เราก็ไม่ได้เน้นให้เด็กเป็นไกด์ แต่ให้เด็กสามารถเป็นนักสื่อความหมาย คือเขาจะต้องลงไปสำรวจชุมชน ไปสร้างกระบวนการกับคนในชุมชน ไปคิดกิจกรรมที่เขาจะทำกับชุมชน”

ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย
รอยยิ้มสดใสของเด็กๆ ที่ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆ ที่ไฟ ฟ้าจัดขึ้น

นอกจากนี้ไฟ ฟ้า บางกอกน้อยยังเพิ่มเอกลักษณ์ด้วยคอนเซ็ปต์ “เป็นไทย” โดยเฉพาะวิชาที่เปิดสอน แม้จะเป็นวิชาเดียวกันกับสาขาอื่นๆ แต่ที่นี่จะเพิ่มความเป็นไทยเข้าไป อาทิ ศิลปะไทย มวยไทย การแสดงร่วมสมัย เป็นต้น นอกจากนี้ตัวอาคารก็ยังใช้คอนเซ็ปต์เป็นไทยเช่นเดียวกัน โดยเปลี่ยนจากตึกแถว 2 คูหาให้กลายเป็นอาคารดีไซน์โดดเด่นแต่กลมกลืนไปกับชุมชน ฝีมือการออกแบบของคุณเอกสิทธิ์ แจ้งอ่างหิน สถาปนิกและดีไซน์ไดเรคเตอร์ จากบริษัท Anghin Architecture

สำหรับอาคารไฟ ฟ้า บางกอกน้อยนั้นตีความหมายของคอนเซ็ปต์ด้วยการออกแบบที่แสดงถึงวิถีชีวิตไทยร่วมสมัย จึงลดความซับซ้อนของสถาปัตยกรรมแบบไทยให้มีความเรียบง่าย อาคารแห่งนี้จึงไม่ได้ตกแต่งอย่างสถาปัตยกรรมแบบไทยโบราณหรือมีลวดลายอ่อนช้อย แต่เป็นอาคารที่กลมกลืนไปกับชุมชนในละแวกเดียวกัน เพื่อให้ชาวบ้านและเด็กๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย

ไฟ ฟ้า บางกอกน้อย
แม้จะออกแบบอาคารในโทนสีเข้มขรึม แต่ภายในอาคารกลับไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เพราะมีแสงธรรมชาติสร้างความสว่างในบรรยากาศอบอุ่น

เริ่มตั้งแต่ตัวอาคารที่ใช้โทนสีเข้มอย่างเทา-น้ำตาล แต่ให้บรรยากาศอบอุ่นแบบพื้นบ้าน ด้านหน้าตึกหรือ facade ตกแต่งด้วยแผ่นไม้โทนน้ำตาลเข้มที่มาพร้อมดีไซน์รูปบ้าน เพื่อสื่อถึงบ้านไม้เก่าริมน้ำที่มีมากในชุมชน เสริมอาคารให้มีรูปลักษณ์แบบไทยร่วมสมัยด้วยการนำวัสดุเก่ามาผสมกับวัสดุใหม่ ทั้งไม้ เหล็ก ปูนเปลือย ฯลฯ โดยเฉพาะการนำเอาความดิบเท่ของสไตล์ลอฟต์มาผสมผสาน อาทิ ผนังภายในอาคารปกปิดร่องรอยเก่าด้วยกระเบื้องอิฐมอญ เสริมด้วยสัญลักษณ์ที่แสดงความเป็นไทยอย่างหน้าจั๋ว เพื่อให้เข้ากันกับคอนเซ็ปต์

สำหรับสถานะของโครงการไฟ ฟ้า ขณะนี้ได้ต่อยอดมาจัดตั้งเป็นมูลนิธิอย่างเต็มตัวแล้ว และกำลังรอการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีในหลายภาคส่วน โดยไฟ ฟ้ามีจุดมุ่งหวังสูงสุดอยู่ที่การเป็นส่วนหนึ่งกับชุมชน เป็นบ้านหลังที่สองของเด็กๆ ที่ให้เด็กในชุมยนสามารถเข้ามานั่งเล่น พูดคุย หรือทำกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ ดีกว่าไปเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอก เพราะไฟ ฟ้าเชื่อว่า “เด็กทุกคนมีพลังและเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันชุมชนไปในทิศทางที่ดี” นั่นเอง

Address : 299 – 301 สี่แยกพรานนก ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย (ตรงข้ามตลาดสดพรานนก ใกล้สี่แยกพรานนก)
GPS : 13.7552032,100.4779425
Time : เปิดวันอังคาร -วันศุกร์ เวลา 11.30 น. -19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30 น-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
Phone : 02-418-0130, 06-1398-7333
Web : www.tmbbank.com/fai_fah/home

เรื่อง : Taliw
ภาพ : Sroisuwan.T
keyboard_arrow_up