Invisible Coffee Room , สุขุมวิท 16, คาเฟ่ สุขุมวิท 16

Invisible Coffee Room มินิมัลคาเฟ่กับการเสิร์ฟความอร่อยที่มองไม่เห็น

Invisible Coffee Room , สุขุมวิท 16, คาเฟ่ สุขุมวิท 16
Invisible Coffee Room , สุขุมวิท 16, คาเฟ่ สุขุมวิท 16

Invisible Coffee Room มินิมัลคาเฟ่กับการเสิร์ฟความอร่อยที่มองไม่เห็น

EAT & DRINK : “Invisible Coffee Room” คาเฟ่ที่นำเสนอความมินิมัลของอินทีเรีย ควบคู่กับความอร่อยไม่สามารถมองด้วยตาได้ จนกว่าจะได้มาลิ้มลองด้วยตัวเอง ในคอนเซ็ปต์ ‘Delicious is Invisible’

ไม่ลึกในซอยสุขุมวิท 16 อาคารพาณิชย์หลังหนึ่งได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านกาแฟบรรยากาศอบอุ่น ตั้งแต่หน้าร้านที่ตกแต่งเรียบง่าย แต่แฝงความเก๋ไก๋ด้วยผนังกระจกที่ล้อมกรอบด้วยไม้โทนอบอุ่น เช่นเดียวกับการตกแต่งภายในร้านที่เน้นความเรียบง่ายในโทนสีขาวสะอาดตา และนี่คือความตั้งใจของคุณหนุน – ธนะพงษ์ หริรัตน์เสรี บาริสต้าและเจ้าของร้านที่เลือกเสิร์ฟความเรียบง่ายในสไตล์มินิมัล ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศร้านหรือเมนูเครื่องดื่มและขนมที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ไม่ธรรมดา

Invisible Coffee Room , สุขุมวิท 16, คาเฟ่ สุขุมวิท 16

จากการค้นหาความฝันและสิ่งที่ชอบ สู่การเป็นบาริสต้าและเจ้าของร้านกาแฟ “Invisible Coffee Room” คาเฟ่ที่นำเสนอความมินิมัลของอินทีเรีย ควบคู่กับความอร่อยของกาแฟและเครื่องดื่มไม่สามารถมองด้วยตาได้ จนกว่าจะได้มาลิ้มลองด้วยตัวเองตามคอนเซ็ปต์ ‘Delicious is Invisible’

ความไม่ธรรมดาที่สร้างความประทับแรกของ Invisible Room Coffee จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เราเดินทางไปเยือนคาเฟ่แห่งนี้คงเป็นอินทีเรียที่เปลี่ยนห้องสี่เหลี่ยมขนาดหนึ่งคูหาแห่งนี้ให้มีเสน่ห์ ด้วยการนำเสนอความเรียบง่ายตามแบบฉบับมินิมัลในโทนสีขาวเป็นหลัก ไม่ลืมเติมบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองผ่านกรอบไม้ที่ออกแบบเป็นหน้าต่างและกรอบประตูหน้าร้าน

โดยคอนเซ็ปต์ของที่นี่มาจากคำถามเบสิกที่มักถูกถามอยู่เสมอว่า ‘กาแฟร้านไหนอร่อย’ แต่เพราะไม่มีคำจำกัดความว่ากาแฟที่อร่อยต้องเป็นอย่างไร เพราะความอร่อยก็เหมือนงานศิลปะที่ขึ้นอยู่กับความชอบและมุมมองของแต่ละคน จากจุดนี้จึงกลายเป็นชื่อร้านและคอนเซ็ปต์ว่า “Delicious is Invisible’”

“…Delicious is Invisible ความอร่อยมันไม่ได้มองเห็น คุณต้องไปชิมเองถึงจะรู้ว่าความอร่อยมันเป็นยังไง …เช่นเดียวกันกับกาแฟหนึ่งแก้วก็มีสิ่งที่คนดื่มมองไม่เห็นจากแก้วนั้นเยอะมาก”

“โจทย์ของที่นี่ มันเริ่มจากคำถามครับ เมื่อมาเป็นบาริสต้าสักพักหนึ่งแล้วก็จะมีคนถามคำถามที่มันฮิตมากว่า ชอบกินกาแฟแบบไหน ชอบกินแฟร้านไหน ร้านไหนกาแฟอร่อย คือเป็นคำถามเบสิกที่เขาถามมา แต่เป็นคำถามที่ตอบยากมาก คือผมตอบไม่ได้ มันก็เลยมีคำถามสงสัยกับตัวเองว่าทำไมตอบไม่ได้ว่ากาแฟร้านไหนอร่อย ทั้งๆ ที่เราก็ชิมกาแฟหลายประเทศมามาก เราไม่มีคำจำกัดความว่า กาแฟแบบไหนที่อร่อย

อย่างถ้าถามว่ากระเพราหมูกรอบร้านนั้นอร่อยไหม คนก็ตอบว่าอร่อย โดยที่ไม่ได้อธิบายว่ามันอร่อยยังไง ‘ความอร่อย’ เป็นคำจำกัดความที่คนไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็เลยกลายมาเป็นคำว่า Delicious is Invisible ก็คือเหมือนกันว่า มันไม่ได้มองเห็น คุณต้องไปชิมเองถึงจะรู้ว่าความอร่อยมันเป็นยังไง และผมมองว่า ความอร่อยมันคล้ายกับความงาม พวกศิลปะ ซึ่งเราตัดสินใจไม่ได้ว่าคนๆ นี้อาจจะมองว่ากาแฟอร่อย อีกคนก็อาจจะมองว่ากาแฟร้านนี้ไม่อร่อย มันคล้ายกับงานศิลปะที่บางคนมองสวยกับไม่สวย”

ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ที่นี่เสิร์ฟเมนูกาแฟหลากรสชาติ ทั้งเมนูกาแฟที่เราคุ้นเคยและเมนูพิเศษ โดยเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟเป็น House Blend ที่คุณหนุนคัดเมล็ดกาแฟจากโรงคั่วไทยถึง 3 แหล่งคือเมล็ดไทย บราซิล และกัวเตมาลา มาผสมและเบลนด์ด้วยตัวเองจนได้กาแฟที่ให้รสเฉพาะ อีกหนึ่งข้อดีของ Invisible Room Coffee คือการให้เราได้เติมความหวานด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่ถูกปาก หรือเมนูไหนที่ต้องใส่ไซรัปก็จะเน้นหวานน้อยเป็นหลัก รวมทั้งเมนูขนมก็จะให้รสหวานน้อยแบบพอดีเช่นกัน

โดยเมนูที่คุณหนุนแนะนำให้เราลิ้มลองในวันนี้คือ Piccolo (65 บาท) เครื่องดื่มที่มีกาแฟกับนมในปริมาณเท่ากัน เป็นเมนูที่เสิร์ฟให้ลูกค้าที่อยากดื่มกาแฟที่ใส่นม แต่อยากดื่มเข้มๆ ใส่นมน้อยๆ กาแฟนี้จึงให้รสเข้ม ขณะเดียวกันก็กลมกล่อมด้วย หรือจะลิ้มลองเมนูพิเศษอีกหนึ่งเมนู Flat White (75 บาท) กาแฟแก้วนี้จะมีความคล้ายลาเต้ แต่จะพิเศษตรงที่มีปริมาณนมน้อยกว่า ขณะเดียวกันก็ให้รสเข้มข้นกว่า Piccolo ซึ่งคุณหนุนแนะนำสำหรับคนอยากดื่มกาแฟใส่นมเข้มๆ ซึ่งเมนูนี้มีแบบเย็นให้เราเลือกดื่มอีกด้วย

นอกจากนี้คุณหนุนยังนำเสนอเมนูวัยเด็กกับ Red & Black Coffee (80 บาท) หรือน้ำแดงหางกาแฟ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่คล้ายกับน้ำแดงโอเลี้ยง เพียงแต่คุณหนุนเปลี่ยนจากโอเลี้ยงเป็นเอสเปรสโซ่ช็อต จนได้เครื่องดื่มรสอร่อยที่หอมหวานจากน้ำแดงเฮลซ์บลูบอยและความเข้มของกาแฟนั่นเอง

“หลักๆ เราเป็นร้านกาแฟ แต่เราก็เข้าใจว่าคนไทยบริโภคกาแฟยังน้อยอยู่ เราก็เลยมีเมนูอื่นที่เป็นเมนูเสิร์ฟคนไม่ดื่ทกาแฟ แล้วก็เมนูสำหรับคนที่ไม่ดื่มนมด้วย” ดังนั้นนอกจากกาแฟแล้ว Invisible Room Coffee ยังมีเมนูครีเอทอื่นๆ มาให้ลิ้มลองอย่าง T&B Tea (80 บาท) หรือชามะขามอัญชัน กับการนำชามะขามจากโคราชมาผสมผสานกับความสวยงามของอัญชัน จนได้เครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานให้ความสดชื่น โดยเฉพาะรสเข้มข้นของมะขาม

หรือจะลิ้มลองเครื่องดื่มแก้วอื่นๆ อาทิ Dirty Chocolate เครื่องดื่มช็อกโกแลตที่ให้รสหวานน้อย แต่เข้มด้วยช็อกโกแลต ส่วนใครชอบชาเขียวต้องไม่พลาดกับเมนู OMG ที่ย่อมาจาก Orange Milk and Green จนได้เครื่องดื่มสามสีจากชาไทย นม และชาเขียวมัทฉะนั่นเอง

ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมและเบเกอรี่ ซึ่งคุณหนุนแนะนำให้ลิ้มลอง Carrot Cake (125 บาท) ขนมที่มีรสชาติเฉพาะของร้าน ซึ่งเพื่อนดีไซน์สูตรให้โดยเฉพาะ ทำให้เมนูนี้ถูกปากลูกค้าและกลายเป็นเมนูขายดีของร้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัสของเค้กที่นุ่ม ขณะเดียวกันก็แทรกเนื้อแครอทจนได้กลิ่นและรสแครอทเข้มข้น ด้านบนท็อปด้วยครีมชีส ช่วยเสริมให้ตัวขนมมีรสชาติกลมกล่อม นอกจากคุณหนุนยังวางแผนที่จะแชร์ประสบการณ์ความอร่อยในวัยเด็ก ผ่านการเสิร์ฟขนมไทยตามฤดูกาลอีกด้วย ซึ่งในแต่ละวันจะเป็นเมนูอะไร ต้องแวะไปลิ้มลองด้วยตัวเองเท่านั้น!!

Invisible Coffee Room
• Address: ซอยสุขุมวิท 16 (ใกล้ BTS อโศก)
Map: goo.gl/maps/8mLF3SME2nm
• Time: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
• Facebook: www.facebook.com/invisiblecoffeeroom/

Story : Taliw
Photo : Wara Suttiwan
keyboard_arrow_up